top of page

มาลัยหลงทาง

  • มาลัยพร เจ้าเรื่อง อัศ อรรถจินดา เรียบเรียง
  • Aug 19, 2015
  • 4 min read

ตอนที่1. ชีวิตของเด็กบ้านนอกจากครอบครัวชาวนาจนๆ ชีวิตในวัยเด็กของลัย ครอบครัวเรามีกันทั้งหมด 6 คนค่ะ มีพ่อแม่ พี่สาวและตัวลัย รวมทั้งน้องชายอีก 2 คน ครอบครัวของลัยมีฐานะยากจนค่ะ พ่อแม่ทำนาและรับจ้างทำงานก่อสร้างด้วย ซึ่งเมื่อนึกถึงอดีตแล้ว รู้สึกสงสารพ่อแม่มาก มีอยู่วันนึงเหตุการณ์นั้นมันฝังใจ ไม่เคยลืมเลือนเลย ครอบครัวเราจนถึงขนาด แม่ในวันนั้นมีรอบเดือนมา แต่แม่ไม่มีแม้นเงิน แม้นแต่ที่สามารถจะไปซื้อผ้าอนามัยมาใช้ แม่จึงถามลัยว่า...ลัยพอจะมีเงินให้แม่ไหมลูก? เพราะแม่คงคิดว่าลัยคงพอมีบ้าง เวลานั้นลัยเองก็หาทำงานรับจ้างเล็กๆน้อยๆ ตามประสาแล้วแต่ใครจะเรียกใช้ลัย แต่ว่าวันนั้น..ลัยเองก็ไม่มีเงินติดตัวเลย สักบาทเดียว ในสมัยนั้นผ้าอนามัยขายแบ่งชิ้นๆละ 2 บาท แต่พวกคุณเชื่อไหมคะว่า..เงินแค่ 2 บาทเราไม่มีติดบ้านกันเลย จนอะไรจะขนาดนี้ชีวิตเรา แม่เลยไปถามขอยืมเงินน้าสาว คือน้องสาวของแม่ ตัวน้าสาวเอง ก็ไม่มีเงินเลยแม่ของลัยจึงจำต้อง ใช้วิธีสมัยก่อน โดยการฉีกผ้าถุงเก่าๆ ใช้พอประทังไปก่อน เพราะแม่ต้องรีบไปทำงาน ลัยนึกถึงเวลานั้นทีไร นั่งแอบร้องไห้ทุกที สงสารแม่มากๆ ในอีกส่วนนึงคือความที่ลัย เป็นคนที่เรียนดี พอสมควร เมื่อเรียนจบ ม.3 ที่โรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ลัยจึงตัดสินใจลองสอบชิงทุน เรียนฟรีของ กศน.และไปทำงานด้วย ที่ จ.ระยอง ลัยพยายามอดทนทำทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน เพื่ออนาคต จะได้มีงานทำดีๆเพื่อช่วยหารายได้มาดูแลช่วยเหลือพ่อแม่บ้าง แต่เหลือเพียงอีกเทอมเดียว มีเหตุจำเป็นบางอย่างต้องกลับบ้าน เลยเรียนไม่จบ รู้สึกเสียดายมากๆค่ะ พออายุได้ 18 ปี ลัยก็ได้แต่งงานกับคนในหมู่บ้านเดียวกัน ลัยทานยาคุมกำเหนิดไม่ได้ แพ้มากทานได้แค่เดือนเดียวก็เลยไม่ทาน จึงติดท้องในทันทีหลังจากที่หยุดทานยาคุมกำเหนิด ช่วงที่ท้อง ชีวิตจริงมันช่างโหดร้าย มันไม่ได้เหมือนในนิยายหรือสิ่งที่ลูกผู้หญิง ทุกคนวาดฝันไว้ ลัยต้องอยู่อย่างจมกับความลำบากหนักเข้าไปอีก ไหนจะอุ้มท้องลูกที่จะเกิดมา ไหนอดีตสามีของลัย เป็นนักเลงหัวไม้ ทั้งเสพยา ทั้งดื่มแต่เหล้า เราต้องทะเลาะกันทุกๆวัน ทำไมชีวิตมันถึงลำบากแบบนี้ ลัยได้แต่ทุกข์และถามตัวเอง เมื่อไหร่จึงจะสบายเหมือนคนอื่นบ้าง ลัยจึงตั้งหน้า อดทนค่ะ ทนๆๆๆๆๆๆ จนลูกคลอดออกมาลืมตาดูโลก เราสองคนจึงตัดสินใจเข้าไปหางานทำในกรุงเทพ

ตอนที่ 2 ซาตานในคราบคนที่เคยรักกัน พอขึ้นมากรุงเทพ อดีตสามีลัย แทนที่ห่างเพื่อนฝูงเก่าๆแถวบ้านจะดีขึ้น แต่กลับซ้ำร้ายหนักกว่าเดิมเข้าไปอีกค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า...มาถึงเขาพาลัย ไปอยู่กับเถ้าแก่เก่าของเขา ซึ่งเป็นโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ค่ะ งานที่ทำเป็นงานเหมาทาสี ส่วนตัวลัยเองแพ้กลิ่นทินเน่อร์ ทนไม่ไหวจริงๆค่ะเหม็นจนปวดหัว เหม็นแม้กระทั่งสามีพูดหรือหายใจออกมา เหม็นไปด้วยกลิ่นของทินเน่อร์ ลัยทนไม่ไหว จึงปรึกษาน้าสาวของลัย น้าสาวของลัยทำงานอยู่ที่โรงงานแถว อ.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาครค่ะ ลัยถามน้าว่า...แถวนั้นมีโรงงานรับคนงานบ้างไหม? ซึ่งน้าสาวบอกว่า มีก็มาสมัครทำซิ ลัยจึงตัดสินใจปรึกษาเขาว่าเราออกจาก ที่นี่เหอะ เราไปทำงานโรงงานด้วยกันนะ แต่เขาไม่ไปค่ะ เขาชอบงานที่ทำ เขาบอกว่าอิสระดี งานโรงงานกฏเกณฑ์มาก เขาไม่ชอบ สรุป เราจึงตกลงกัน ลัยขอแยกมาอยู่กับน้าสาว และสมัครทำงานโรงงานได้สำเร็จค่ะ ที่พักลัยก็พักกับน้าสาวของลัย ส่วนอดีตสามีก็มาหาลัย เดือนละ 1-2 ครั้ง แล้วแต่เขาจะว่างมาค่ะ แต่ทุกครั้งที่เขามา เขาไม่เคยมีความรับผิดชอบเลย ไม่เคยเห็นเงินของเขาเลยค่ะ ทั้งที่เราเข้ามาทำงานกรุงเทพเพื่ออนาคต เพื่อส่งเงินไปบ้าน เพื่อลูก แต่ไม่มีเลย รายได้ของเขาหมดไปกับการเที่ยวเตร่ ดื่มเหล้า มีแต่อบายมุกที่เงินเขาหมดไป มีแต่เงินที่ลัยทำงานฝ่ายเดียวที่ส่งไปทางบ้านเพื่อลูก หนำซ้ำแค่นั้นยังไม่พอ มาหาลัยทุกครั้ง ก็มาหาเรื่องทะเลาะ หึงหวง หาว่าลัยมีคนอื่นบ้าง ทั้งที่ลัยอยู่กับน้าสาวของลัยเองและเราก็มีลูกด้วยกัน ลัยไม่เคยคิดจะไปมองหรือยุ่งกับใครอื่นเลย ไม่รู้ว่าเขาจะมโนและหาเรื่องให้ร้ายลัยไปถึงไหนกัน บางทีทำงานเหนื่อย แทนที่เจอหน้าอดีตสามี แทนที่จะมีความสุข แต่กลับมาหาเรื่องทะเลาะกับลัย..มันอะไรกันนี่ชีวิตฉัน? จนลัยทนไม่ไหว เลยบอกเขาว่า ถ้ากลัวลัยจะมีคนอื่น ก็ลาออกจากงานที่นั่น แล้วมาอยู่ด้วยกันที่นี่ซิมาทำงานโรงงาน มาใช้ชีวิตร่วมกันจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย ลัยเหนื่อยที่จะทะเลาะด้วยเพราะมันไม่มีมูลเลย แต่เขาก็ยืนกรานไม่ยอมมาอีก จะให้ทำยังไง? เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือนค่ะ มีอยู่วันหนึ่ง....เขาก็มาหา..ลัยอีก และก็เหมือนเดิมมาถึงก็มายืนชี้หน้าด่าลัย ว่า..ลัยชั่ว ลัยเลว มีชู้ แอบคบผู้ชายคนใหม่ ( ด่าหยาบคายมาก ซึ่งไม่สามารถนำมาเล่าได้ที่นี่ค่ะ ) สุดท้าย เขาก็บอก เราเลิกกัน ณ.เวลานั้น ลัยตัดสินใจแล้ว อยู่กันไปก็ไม่มีความสุข ไม่มีอนาคต มีแต่ความทุกข์ ความเจ็บช้ำ อนาคตก็มืดมน ทำงานได้ไม่เคยมีความรับผิดชอบอะไรเลย เขาทำเพื่อเสวยสุขคนเดียวจริงๆ แล้วเราจะยื้อเขาไว้ทำไม? รังแต่มีปัญหามาหาเราทุกครั้ง ลัยจึงตัดสินใจบอกเขาว่า....โอเค จบคือจบ ตามที่คุณต้องการ ลัยคิดในใจไม่มีเขาลัยก็อยู่ได้ เพราะตลอดเวลามีก็เหมือนไม่มีอยู่แล้วนี่ เราจะต้องไปเหนี่ยวรั้งเขาทำไม? เมื่อตกลงตามนั้นแล้วเขาก็กลับไปค่ะ หลังจากบอกเลิกกันไปเป็นเวลา 1 เดือน ลัยก็เลยตัดสินใจย้ายที่พักออกจากห้องน้าสาว ไปเช่าอยู่รวมกับเพื่อนที่โรงงานเดียวกัน เขาก็ได้เดินทางมาหาอีกครั้งนึง มาถามลัยว่า...เรากลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งได้ไหม? ลัยจึงตอบเขาไปว่า ไม่ คำเดียวจริงๆค่ะ หมัดบินมาเลยค่ะ หมัดก่อนตามด้วยเท้าถีบ ตั้งเตะ ต่อย ถีบ จนลัยล้มลง เพื่อนตกใจ วิ่งไปตามคนมาช่วยค่ะ

ตอนที่ 3 ) สภาพที่บอบช้ำ ในขณะที่อดีตสามีทำร้ายลัยนั้นจำได้ในสิ่งสุดท้ายก่อนจะหมดสติลงไป เขาใช้เท้าเหยียบกระทืบที่หัวของลัยลงกับพื้นระเบียง หลังจากนั้นก็เหลือบไปมองเห็นเพื่อนที่อยู่ในโรงงานเดียวกันแต่พักอยู่คนละตึกเขามองลงมาเห็นว่าเป็นลัยกำลังโดนซ้อมอยู่ เขาคงทนเห็นภาพนั้นไม่ไหวเขาเลยถือมีดวิ่งลงมาจะช่วยลัยให้พ้นจากเงื้อมมือผู้ชายใจร้าย ใจดำคนนี้ คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีและเป็นพ่อของลูกของลัย พออดีตสามีลัยเห็นว่ามีคนถือมีดวิ่งลงมาช่วย เขาก็กระโดดลงทางบันไดหนีไฟหนีไปเลยค่ะ ซึ่งห้องพักของลัยอยู่บนชั้น 2 ของหอพัก หลังจากนั้น..ลัยก็หมดสติลงไปเลยค่ะ มารู้สึกตัวอีกทีก็รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง ในโรงพยาบาลเสียแล้วค่ะ แพทย์เจ้าของไข้ผู้ที่เมตตาดูแลรักษาสภาพร่างกายที่บอบช้ำของลัย บอกว่าลัยต้องนอนพักที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 วันต้องตรวจ เช๊คดูอาการของสมองก่อน เพราะหัวบวมมากเท่าแตงโมโตๆลูกนึง และหน้าตาก็บวมไปหมด มองเห็นสภาพร่างกายที่ถูกทำร้ายจนบวมเละขนาดนั้นทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าทำกับลัยได้ขนาดนี้ น้าสาวของลัย 2 คนได้เดินทางมาเยี่ยมลัยที่โรงพยาบาล น้าสาวของลัยคนนึงได้บอกกับลัยว่า ที่น้าสาว 2 คนมาเยี่ยมที่นี่เพราะเขารู้ข่าวจากใครรู้ไหมคะ? น้าสาวลัยได้รับรู้ จากผู้ชายใจร้ายคนที่ทำร้ายลัยสาหัสนั่นเอง หลังจากที่เขากระโดดบันไดหนีไฟหนีไปจากหอพักได้ เขากลับไปซื้อเบียร์ไปนั่งดื่มที่ห้องของน้าสาว พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาทำร้ายลัย แล้วยังบอกน้าสาวของลัยอีกว่า ให้มาดูลัยที่โรงพยาบาลที เพราะเขาตีลัยจนลัยสลบไป แถมยังบอกน้าสาวของลัยอีกว่า ถ้าไม่ติดว่ามีคนมาห้ามและมีคนมาช่วยลัยไว้ เขาจะฆ่าลัยให้ตายคามือ

ตอนที่ 4 ) ดูหัวใจของคนชั่วช้า คนใจมาร ทำร้ายลัยขนาดนี้มันยังไม่สาแก่ใจ ยังคิดจะฆ่าลัยให้ตาย ให้ถึงแก่ชีวิต ทั้งที่ลัยไม่ได้ทำอะไรผิด เขาขอเลิกกับลัยเอง เงินทองก็ไม่เคยมารับผิดชอบชีวิตลัยกับลูกเลย หาเงินได้ก็ใช้หมดไปกับอบายมุกต่างๆ ทำตัวสำมะเรเทเมาไปวันๆ ไม่มีอนาคต ไม่มีความรัก ไม่มีคำว่าครอบครัว เมื่อใา เมื่อเขามาขอเลิกลัยก็ยอมทำตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป นึกอยากกลับมาคืนดีก็มา ต้องการให้ลัยทำตามใจเขาทุกอย่าง นี่ลัยเป็นอะไรในความรู้สึกของเขา พอลัยไม่ยอมคืนดีด้วยกบับทำร้ายจนสาหัส คิดจะ"ฆ่า"ลัยได้ลงคอ ถ้าเขาทำได้สำเร็จ ลัยตาย เขาติดคุก แล้วลูกล่ะ? เขาไม่เคยคิดถึงลูกที่เขาทำให้เกิดมาเลยค่ะ แบบนี้ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม? น้าสาวลัยได้ยินคำพูดที่ออกจากปากเขา น้าสาวจึงทนไม่ไหว โกรธมากจนไล่เขาให้รีบออกไปจากห้องของน้าเดี๋ยวนั้นเลย หลังจากที่น้าสาวและเพื่อนๆที่พากันมาเยี่ยมลัย กลับกันไปหมด ผู้ชายสารเลวคนนั้นก็โผล่ตามมาที่โรงพยาบาล พอลัยเห็นเขาเท่านั้น ลัยรู้สึกเกลียดเขาจับขั้วหัวใจ ทั้งเจ็บ ทั้งแค้นใจ ในทุกอย่างที่เขากระทำ กับลัยมาตลอดเวลาที่ร่วมชีวิตกันจนถึงนาทีสุดท้ายที่กล้าทำร้ายลัยจนสลบ ลัยจึงร้องเรียกคุณพยาบาลช่วยด้วย ช่วยไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปที หรือเรียก รปภ.หรือตำรวจก็ได้ค่ะ แต่คำร้องขอของลัยไม่มีผล นางพยาบาลไม่สนใจ ทำเฉยจนลัยหมดความอดทนจึงตะโกนลั่นห้องทันที ตะโกนแบบสุดเสียง ว่าคนๆนี้คือคนที่ร้ายลัยจนสลบและต้องเข้ามารักษาตัวอยู่ในตอนนี้ คนๆนี้คือคนร้าย เท่านั้นล่ะค่ะ นางพยาบาลจึงเรียก รปภ.มาไล่เขาไป แต่เขาก็ไม่ยอมออกไป เขามานั่งคุกเข่าข้างเตียงแล้วบอก " ขอโทษ " ลัยโกรธจนแทบเสียสติ ไหนจะสภาพตัวลัยที่บาดเจ็บ ไหนจะคำพูดที่เขาบอกกับน้าสาวว่าจะฆ่าลัย มันก้องอยู่ในโสตประสาท ไหนจะปวดหัวที่บวม และปวดระบมใบหน้า ตอนนั้นสติแตกแล้วค่ะ เลยตะโกนบอกพยาบาลให้เอาผู้ชายคนร้ายคนนี้ออกไปให้เร็วที่สุด ลัยเกลียดเขา เกลียดฝังใจผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิงมาแต่เด็กๆมากพอแล้ว เพราะลัยเติบโตมาพอจำความได้ ลียก็เห็นแม่ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย มานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่ลัยยังเด็กจนลัยโตมาถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่เห็นพ่อทำร้ายแม่ มันเจ็บปวดฝังใจ เกลียดมากแล้วลัยยังต้องมาเจอกับตัวเอง ลัยตะโกนว่า ออกไป เอาเขาออกไปๆๆๆๆ ตะโกนอยู่อย่างนั้น

ตอนที่ 5 ) หนีแบบหมดสภาพ หนีแบบน่าเวทนา เมื่อครบวันที่หมออนุญาติให้ลัยออกจากโรงพยาบาลได้ น้าสาวของลัยก็รีบมารับ และน้าสาวเป็นห่วงจึงตั้งใจจะพาลัยไปพักกับน้าสาวของลัยอีกคนนึง แต่ปรากฏว่า...พอลัยไปถึงบ้านน้าสาวอีกคนนึง อดีตสามีลัยก็ตามมาในทันทีค่ะ ลัยเกลียดเขามาก ลัยบอกน้าสาวว่า...อย่าให้เขาเข้าบ้านมานะ ลัยไม่อยากเห็นหน้าเขาแต่น้าสาวลัยคนนี้ คงเห็นว่า เรามีลูกด้วยกัน ก็อยากให้เราพูดคุยกันเพื่อคืนดีกันและกลับไปอยู่ด้วยกันอีกเพื่อลูก น้าสาวลัยกลับปล่อยให้เขาเข้ามาในบ้าน แล้วน้าสาวสองคนก็ไปทำงานกันหลังบ้านเพื่อเปิดโอกาสให้ลัยได้คุยกับเขาในห้องโถงหน้าบ้านลัยเห็นหน้าเขา ลัยทนไม่ไหวมันกดดันจิตใจมากในสิ่งที่เขาได้ลงมือ ลงเท้าทำร้ายลัยอย่างสาหัส ลัยไม่คุยด้วยเลยค่ะ จนเขาเผลอหลับไป ลัยเลยได้โอกาสขโมยเงินจากน้าสาวในกระเป๋าได้มาคแค่เพียง 16 บาท แล้วลัยปีนประตูเหล็กหนีออกมาเพราะถ้าเปิดคงจะเสียงดัง ( มาคิดดูแล้วชีวิตช่วงนั้นมันหฤโหดมากๆ ) ลัยเดินออกมาเพื่อที่จะเซ๊ฟเงิน 16 บาท เพื่อเป็นค่ารถสองแถวเพื่อไปขอ ความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ซอยนั้นลึกมากลัยเดินหลงทาง วนไป-มา ทั้งที่หน้าตาก็บวมปูดมากจนน่ากลัว เดินมาเรื่อยๆทั้งที่ไม่มีรองเท้าใส่ เดินจนมาเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์คันนึง เขาคงสงสัยเลยถามลัยว่า...น้องจะไปไหน? ลัยบอกว่าจะออกไปหน้าปากซอยค่ะ พี่เขาเลยบอกลัยว่าเดี๋ยวพี่ไปส่งให้นะ ลัยบอกพี่เขาว่า ลัยไม่มีเงินค่ะ พี่เขาคงเห็นสภาพแล้วสงสารเลยบอกลัยว่า...ไม่เป็นไร พี่ไปส่งให้ฟรีๆ ลัยจึงมีเงินที่เก็บไว้จากการขโมยมาจากน้าสาว 16 บาทนั้นเป็นค่ารถสองแถวต่อไปหาเพื่อนอีกคนนึง แต่ไม่ใช่เพื่อนคนที่ลัยเคยพักด้วยกันเพราะ อดีตสามีลัยคงตามมาอีกแน่ ลัยเกลียด ลัยอยากไปให้พ้นคนใจบาปคนนั้น ให้ไกลที่สุด พอรถสองแถวแล่นไปถึง หน้าปากซอยบ้านเพื่อนคนที่ลัยมุ่ง ไปขอความช่วยเหลือ ลัยกดกริ่ง ให้รถสองแถวจอด จ่ายค่ารถไปแล้ว ลัยก็มีเงินเหลือติดตัวเพียงอีกแค่ 6 บาทเท่านั้น ไม่มีเงินพอจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์อีกแล้ว ชีวิตหนอ ชีวิตทำไมถึงลำบากมากมายขนาดนี้ เดินน้ำตาไหลเป็นทางแต่ก็ต้องอดทน อดกลั้น ลัยจำใจเดินด้วยเท้าปล่าวไม่มีรองเท้าต่อไป ทั้งหน้าตาที่บวมปูด ทางก็ไกลและเปลี่ยว กลัวก็กลัว แต่กลัวและเกลียดคนใจมารมากกว่า อะไรในตอนนี้ มีอย่างเดียวในหัวใจคือ ต้องไปให้พ้นจากคนๆนั้นให้ได้ เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่โชคก็เข้าข้างลัยอีก เหมือนฟ้ามีตา มีวินมอเตอร์ไซค์มาจอดถามอีก น้องจะไปไหน? ลัยก็บอกจุดหมายและบอกลัยไม่มีเงินอีก เขาก็ใจดี บอกพี่ไปส่งฟรีๆ ขึ้นรถมาเถิด บุญจริงๆที่ ลัยไม่ต้องเดินเท้าปล่าวในซอยที่เปลี่ยวๆ แบบนั้นอีกต่อไป พอไปถึงห้องของเพื่อนแค่นั้น เพื่อนเห็นสภาพของลัย เพื่อนรีบวิ่งออกมากอดลัยเรากอดกันร้องไห้เพื่อนลัยเห็นสภาพลัยแล้ว เพื่อนลัยร้องไห้บอกสงสารลัยมาก

ตอนที่ 6) ลัยจึงต้องมาขอพักอาศัยในห้อง ของเพื่อนไปก่อนสัก 2-3 วันค่ะแล้วลัยลอง โทรเช๊คหาเพื่อนที่เราเช่าห้องอยู่ด้วยกัน ลัยโทรถามเพื่อนว่า ทุกอย่างปกติดีไหม? เพื่อนเล่าให้ฟังว่า อดีตสามีลัยมาตามหาลัยที่ห้องทุกๆวัน ลัยจึงต้องขออาศัยกับเพื่อนอีกคนนึงไปก่อน เพื่อหลบหลีกความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นซ้ำสองอีก หลังจากที่คุยกับเพื่อนผ่านไป 1 อาทิตย์ เพื่อนโทรมาบอกลัยว่า...เขาไม่มาหายหน้าไปหลายวันแล้วล่ะ ลัยเลยตัดสินใจกลับไปที่ห้องพักเดิมอีกครั้ง เพราะลัยต้องทำงานหาเงินส่งลูกและเพื่อครอบครัวทางบ้าน กรรมเก่ากับเขาคนนั้นยังไม่หมดค่ะ ระยะเวลาผ่านไป 2 เดือนแม่โทรมาเล่าให้ลัยฟังว่า...เขาไปเล่าให้คนในหมู่บ้านฟังไปทั่วว่า ที่เขาตีลัยหนักนั้นเพราะว่าลัยมี "ชู้ " ลัยหมดสิ้นแล้วกับความรู้สึกดีๆ สำหรับคนๆนี้ ลัยเลยตัดใจบอกแม่ว่า เอาเหอะ ช่างเขาๆอยากจะพูดอะไร ก็ปล่อยเขาแม่ เพราะลัยเหนื่อยและไม่อยากเกี่ยวข้อง กับคนๆนี้อีก ตัวลัยรู้ว่าความจริงเป็นยังไง? และลัยเองไม่เคยสนใจข่าวคราว หรือคิดจะติดต่อกับเขาอีกเลย แต่แม่จะส่งข่าวคราวของเขาให้ลัยทราบเสมอแม่บอกวันๆนึงเขาเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่แถวบ้าน มาหาลูกแต่ละครั้งก็ให้เงินลูก ครั้งละ 10-20 บาทแค่นั้นเอง ในส่วนนั้น ลัยคิดว่าช่าง จะส่งหรือไม่ส่ง ลัยก็ไม่สนใจมานานแล้ว เพราะลัยทำงานได้ ก็ส่งเสียให้แม่ดูแลลูกอยู่คนเดียวเท่านั้น มีเขาหรือไม่มี เขาให้ลูกหรือไม่ให้ มันไม่มีผลอะไรต่อจิตใจของลัยอีกแล้ว คนเราบทมันจะหมดเยื่อใยกัน ใจลัยก็หลุดออกจากบ่วงเวรกรรมนั้นจริงๆค่ะ หลุดไปได้แบบง่ายดาย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับคนแบบนั้นอีก ชีวิตลัยก็ทำงานตามปกติ ระยะหลังงาน โอที ไม่ค่อยมีงานน้อย รายได้ก็น้อยตาม ช่วงนี้ก็เริ่มเครียดเพราะรายจ่ายจิปาถะรอลัยอยู่ ส่งลูก ค่าเช่าห้องพัก ค่ากินอยู่ส่วนตัวเวลาไปทำงาน มันก็หนักสำหรับชีวิตลัยที่ต้องแบกภาระเอาไว้คนเดียว จากผลงานของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าพ่อของลูก ที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรเพื่ออนาคตลูกเลย บทเรียนครั้งสำคัญสอนชีวิตลัยจริงๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลัยต้องอดทนและผ่านมันไปให้ได้

ตอนที่ 7 ) ชีวิตรักครั้งใหม่ เวลาผ่านไปได้ 1 ปี หลังจากเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ผ่านไป ลัยตั้งหน้าอดทนทำงานส่งลูกต่อไป ช่วงนี้ก็มีหนุ่มเข้ามาจีบลัย ลัยก็คบหาดูใจเขาได้ประมาณ 2 ปี จึงตัดสินใจตกลงปลงใจไปอยู่ด้วยกันค่ะ เขาทำงานอยู่ที่จังหวัด สมุทรปราการ ลัยจึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วย้ายไปอยุ่กับเขาที่นั่น แฟนใหม่เป็นคนจังหวัดศรีษะเกศ มันคือการเปลี่ยนชีวิตของลัยอีกครั้งนึง เขาก็เป็นคนดีรักลัย เขาได้เดินทางมาบ้านของลัยเพื่อไปพูดคุยสู่ขอลัยกับพ่อแม่ นับว่าเขาก็ให้เกียรติลัย ซึ่งเป็นแม่ร้างมีลูกติด 1 คน เราเดินทางไปบ้านลัยในเดือนเมษายนของปีนั้น ก็ได้ตกลงกับพ่อแม่ลัยว่า เราจะแต่งงานกันสิ้นปีเพื่อทำให้ถูกประเพณีของไทยเรา ในใจลัยคิดว่า ที่เขาตกปากรับคำกับพ่อแม่ลัยนั้น พ่อแม่ทางบ้านเขาคงพอมีเงินที่จะนำมาสู่ขอแต่งงานกับลัย แต่ที่ไหนได้ ก่อนงานแต่งงานจะมาถึงเพียงอาทิตย์เดียว ทางพ่อแม่ลัยก็ตระเตรียมงานขึ้น พ่อแม่แฟนกลับมาบอกลัยว่า พ่อแม่ไม่มีเงิน พวกเราสองคนล่ะมีเงินไหม? อ้าว...ตายล่ะซิ ทีนี้ ลัยยืนแทบไม่อยู่ ขาสั่นไปหมดยืนแทบไม่อยู่ ลัยเองเคยบอกแฟนแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องไปขอ ไม่จำเป็นต้องแต่ง เพาะลัยไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้ว ลูก 1 คนแล้ว เขาก็ไม่เชื่อลัย เขาเองก้ไม่มีเงินเก็บรายได้ๆมาเราสองคนก็แค่ได้กินประทังชีวิตและพอแบ่งสางมาให้ลูกลัยแค่นั้นเอง จะเอาเงินที่ไหนมาเก็บ ลัยได้แต่นั่งร้องไห้ตลอดทั้งวัน คิดถึงใจพ่อกับแม่ที่ตั้งใจตระเตรียมงานไว้ พ่อแม่ต้องอับอายคนเพราะลัยอีกแล้ว ลัยนั่งคิดว่าจะทำยังไงดี สุดท้ายลัยต้องตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ลัยตามความจริงว่า..เราสองคนหาเงินมาแต่งตามที่บอกพ่อกับแม่ไว้ไม่ได้ เราคงไม่มีงานแต่งแล้วนะพ่อจ๋า แม่จ๋า แต่ความที่แม่รักลูกมาก แม่กลับบอกลัยว่าไม่เป็นไรลูก มีเมื่อไหร่ก็ค่อยมาผูกข้อไม้ ข้อมือกันเอาลูก ลัยเสียใจมากๆที่ทำให้พ่อแม่ต้องอับอาย แต่คำตอบที่แม่พูดมามันทำให้รู้ว่า ความรักที่แม่มีให้ลัยนั้นมากเพียงไหน แม่ให้อภัย แม่ปลอบโยนแทนที่จะดุด่า ว่าเราสองคน แต่กลับได้รับคำปลอบโยน ความเข้าใจเราจากแม่ น้ำตาไหลไม่หยุด แต่สุดท้ายก็ต้องตัดใจเลิกคิด และเราต้องมีชีวิจเดินหน้าต่อไปค่ะ เพราะถึงอย่างไรแฟนใหม่ลัยคนนี้เขาก็ดีกับลัยมาตลอดเวลา เราสองคนทำงานโรงงานเดียวกัน โดยค่าแรงงานเราตอนนั้นได้รับวันละ 198 บาทต่อวันต่อคน รายได้เพียงเท่านี้ไม่พอใช้จ่าย เราสองคนจึงปรึกษากันพยายามมองช่องทางหายรายได้เสริม เราลองขายหัวใต้ดินส่งให้เจ้ามือใหญ่ ( ซึ่งตรงนี้ก็เสี่ยงนะคะเพราะว่าผิดกฏหมาย ถ้ามีทางเลือกอื่นลัยกับแฟนคงไม่ทำค่ะ แต่เราไม่มีหนทางใดๆ จะค้าขายก็ต้องลงทุนและมีเวลา จึงจำใจต้องทำค่ะ ) แรกๆก็ไปได้สวย ขายได้เยอะ เก็บเงินได้เยอะเราส่งเงินเเจ้ามือใหญ่ตรงเวลา เจ้ามือใหญ่เห็นความสามารถของเรา เขาเลยให้เงินเรามาปล่อยกู้ค่ะ เราปล่อยให้พวกคนงานด้วยกันร้อยละ 20 บาท เราสองคนก็เลยดีใจรับมาทำเพราะได้เปอร์เซนต์ดี แรกๆก็โอเคค่ะ พอทำนานเข้าลูกค้า เริ่มมีปัญหา ไม่จ่ายค่าหวย ไม่ส่งเงินดอกที่เราปล่อยกู้ แถมไหนเราจะเล่นแชร์ด้วยเพราะอยากเก็บเงิน ก็ดันมาโดนโกงแชร์ซ้ำอีก สถานะการณ์ทุกอย่าง เริ่มพลิกผันเริ่มมีปัญหาเข้ามารุมเร้าเราสองคน ทำให้เราหมุนเงินไม่ทัน ไม่มีเงินส่งให้เจ้ามือเราเลยโดนเขาตามล่าตัว มรสุมชีวิตเริ่มก่อตัว

ตอนที่ 8 ) การแก้ปัญหาแบบหนีตาย จนเราสองคนทนไม่ไหวไปลองขอเบิกเงินล่วงหน้าค่าแรงจากเจ้าของโรงงานดูค่ะ แต่เรามีหนี้เกือบ 3 หมื่นบาท เจ้าของโรงงานให้เงินล่วงหน้าที่เราขอเบิกแค่เพียง 2 พันบาท เงินเพียงสองพันจะทำอะไรได้กับหนี้ขนาดนั้น แล้วลัยกับแฟนจะอยู่กันได้ยังไง **เราตัดสินใจหนีค่ะ ** ( รู้นะคะว่าเราทำผิด แต่เราไม่มี จะทำยังไงได้อยู่คงแย่แน่ๆค่ะ ) เราสองคนตัดสินใจเดินทางกลับไปบ้านแฟนที่ศรีษะเกศ ไปทำนา ทำไร่ พอกลับมาบ้านแฟนดันมาตั้งท้องอีก เห้อ...ก็เลยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านตัวเองที่จังหวัดอุบลค่ะ แฟนก็ไปทำงานก่อสร้างกับแม่ลัย พอลัยคลอดลุกได้ก็พากันอพยพกลับไปบ้านแฟนอีกครั้งนึง แต่ลูกชายคนโตของลัยที่มีกับสามีเก่า น้องไม่ยอมมาอยู่ด้วยค่ะ แกคงติดยาย หลังจากนั้นครอบครัวของแฟนลัยก็ได้พากันอพยพไปรับจ้างทำงานดูแลไร่มันสำปะหลังที่จังหวัดระยอง ระหก ระเหินจริงๆชีวิตลัย ตอนที่ย้ายมาระยองลูกชายคนโตของลัยตามมาอยู่ด้วยกันค่ะ ช่วงนี้เริ่มกลับมารันทดไปอีกแบบอีกแล้ว ลำบากสุดๆ อยู่กระต๊อบหลังเล็กๆ เล็กมาก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีปะปา ต้องตักน้ำจากบ่อมาใช้ แฟนก็ออกไปทำงานรับจ้างได้ค่าแรง วันละ 160 บาท จะพอที่ไหนกันคะ!! ในการใช้จ่ายในส่วนครอบครัวเรา 4 คน ปรากฏว่านับวันยิ่งอยู่ร่วมกัน กับครอบครัวพ่อแม่แฟน ลัยเริ่มเห็นความใจร้าย ใจดำ ของพ่อแฟนค่ะ แกเค็มมาก แกกลับบ้านไปเอาข้าวสารมา 1 กระสอบ แม่แฟนแบ่งมาให้เราไว้กินกัน แต่พ่อแฟนกลับมาเอาข้าวสารที่แม่ย่า แบ่งให้เราไปซุกซ่อน รวมทั้งอาหารต่างๆ ด้วยค่ะ ซ่อนเราหมด

ตอนที่ 9 ) วันแห่งความวิปโยคของชีวิตลัย ความเจ็บปวดกาย-ใจ จากอดีตสามีคนแรก ก็บอบช้ำมากเกินจะบรรยาย เมื่อมาเจอแฟนคนนี้ ชีวิตที่ลัยคิดว่าคงเริ่มดีมีความสุขมันก็แค่ความฝัน เมื่อความสุขมีได้ไม่นาน ทุกข์ใจ ความเจ็บปวดหัวใจก็เริ่มถาโถมเข้ามาเยือนลัยอีกครั้งนึง หรือว่าความเจ็บปวดและทุกข์ มันกลายเป็นเพื่อนคู่ชีวิตของลัย ไปเสียแล้ว? วันแห่งความเจ็บปวดก็เข้ามาเยือนลัย..ครอบครัวของเราได้อพยพมาทำงานรับจ้างในไร่มันสำปะหลังได้ประมาณ 3 เดือน ในระหว่างนั้นลัยเองก็ไม่เคยได้หลับนอนกับแฟนตามประสาของคู่ชีวิตทั่วๆไปหลังจากที่ลัยคลอดลูกคนนี้ ในวันหนึ่งเวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษๆ แฟนลัยได้หอบเอากับข้าว เอาน้ำมาตั้งไว้ที่บ้านเพื่อให้พวกเราแม่ลูก 3 คนได้กินกัน แล้วเขาบอกลัยว่าขอไป ปัสสะวะหลังกระท่อมที่เราพักอาศัย ซึ่งด้านหลังกระท่อมจะเป็นป่ามันสำปะหลังค่ะ และในละแวกนี้จะมีกระท่อมทั้งหมด 4 หลังด้วยกันค่ะ ก็มีกระท่อมที่เราอยู่กัน 1 หลัง ของพ่อแม่แฟนอีก 1 หลัง เจ้าของไร่มันอีก 1 หลัง ส่วนอีก 1 หลังก็เป็นคน งานทำงานในไร่ด้วยกันกับพวกเรา ซึ่งเขาจะมีลูกสาว 1 คนอายุประมาณ 14-15 ปี แต่เด็กสาวคนนี้ แกเหมือนคนสติไม่ค่อยดีหรืออย่างไร ลัยเองก็บอกไม่ถูกค่ะ แกชอบไปมีอะไรกับผู้ชายไปทั่วโดยไปไม่เลือก ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ พอลัยทานข้าวเย็นเสร็จ ลัยก็นึกขึ้นได้ว่า..ทำไมแฟนลัยไปปัสสะวะถึงนานจัง มีอะไรหรือปล่าว!!! ความเป็นห่วงแฟนลัยจึงลองเดินไปตามหาเขาดูว่าเขาหายไปไหน ลัยเป็นห่วงเพราะในป่ามันหลังบ้านก็มืดมาก มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟฟ้าจากถนนเท่านั้น เพราะไร่มันที่เราอยู่ไม่มีไฟฟ้า ใช้ตะเกียงเอาค่ะ แต่เมื่อลัยเดินตามเข้าไปในป่ามันหลังบ้าน ลึกเข้าไปเรื่อยๆ สิ่งที่ลัยพอจะมองเห็นเป็นเงาจากไฟสลัวของไฟฟ้าหน้าถนนนั้น พวกคุณพอทราบไหมคะว่าลัยได้เห็นอะไรต่อหน้า ต่อตา? เล่าไปน้ำตาแห่งความเจ็บปวดมันก็ไหลลงมาอาบแก้มแม้นเหคุการณ์นั้นจะผ่านมาแล้ว แต่แผลในใจมันยังจมอยู่ค่ะ สิ่งที่ลัยเห็นก็คือ แฟนพ่อของลูกที่เพิ่งจะลืมตามาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือน เขากำลังยืนกอดจูบลูบไล้อยู่กับเด็กสาวคนนั้นในป่ามันสำปะหลังค่ะ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามัน ซึ่งเขาสองคนไม่รู้ตัวเลย ว่าลัยได้มายืนหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา หัวใจของลัยมันสลายลงตรงนั้นทันที น้ำตาไหลอาบแก้มมันไหลลงไม่หยุด แขนขาเริ่มสั่น เนื้อตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ พอตั้งสติได้ ลัยจึงตะโกนจนสุดเสียงว่า " นี่!! ทำอะไรกันน่ะ " ทั้งๆที่รู้ ที่เห็นกับตาตรงหน้า แต่มันเหมือนถูกเอาค้อนปอนด์มาตีลงแสกหน้า ก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยคำว่าอะไรออกไปดี จึงร้องถามไปแบบนั้น หัวใจตอนนั้นมันแตกสลายจริงๆค่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาสองคนจะกล้าทำอะไรที่เลวทรามแบบนี้ ในตอนนั้นสมองของลัยมันมึน งง ไปหมด นึกอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก ตัวเย็นและชาไปหมดค่ะ

ตอนที่ 10 ) หัวอกของคนเป็นแม่ แฟนของลัยรีบผละตัวเอง ออกจากเด็กสาวคนนั้นทันที แล้วทำเป็นนั่งลงกับพื้นบอกว่ากำลังขับถ่าย ลัยจึงเดินร้องไห้กลับมาที่กระท่อม ส่วนเขารีบเดินตามมาพร้อมทั้งรีบมาฉุด มาดึงมือลัยให้รับฟังคำแก้ตัวของเขาต่างๆนาๆ เขายอมรับว่าเขาแค่อยากลองกับเด็กสาวคนนี้เฉยๆไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น ทำไม? คำพูดมันช่างง่ายดายเหลือเกิน สำหรับผู้ชายมักมากในกาม คำว่า " แค่อยากลอง " มันง่ายมากเลยใช่ไหม? แล้วหัวใจลัยล่ะ เขาเคยคิดถึงลัยบ้างไหม? ว่าความเจ็บปวดของลัยมันไม่ได้เบา มันไม่ได้ลืมอะไรง่ายๆในสิ่งที่เขาทำ ลัยตอนนั้นไม่ต้องการรับฟังอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น ลัยเห็นมากับตา ด้วยความที่โมโหจนขาดสติลัยหยิบจานข้าวได้เพราะอยู่ใกล้มือ ปาจานข้าวไปที่ตัวเขา และตะโกนลั่นบ้านบอกให้ไปให้ไกลๆ จนคนอื่นรวมทั้งพ่อแม่ ต่างพากันวิ่งมาดู พ่อแม่แฟนถามว่า...มันเกิดอะไรขึ้น? ลัยไม่มีอารมณ์จะพูดกับใครในตอนนั้น ปล่อยพ่อแม่เขาถามซักทอดกันเอง ลัยก็กลับเข้าไปนอนกับลูกๆ พอเช้าลัยบอกจะกลับบ้านที่อุบล ลัยไม่ต้องการอยู่กับเขาอีกต่อไป ลัยบอกขอเงินค่ารถให้ลัยด้วย แต่เขาไม่ยอมให้เงิน เมื่อลัยไม่มีเงินติดตัวเลย แต่ใจมันไม่พร้อมที่จะอยู่ที่นี่ ลัยเลยโทรไปขอเงินจากลูกสาวของป้า ที่อยู่ที่ชลบุรี เขาเลยโอนเงินมา ให้ลัย 1 พันบาท ลัยก็ไปกดเอาเงินที่ในเมือง ซึ่งต้องเดินเท้าด้วยมือนึงอุ้มลูกคนเล็ก อีกมือนึงจูงลูกคนโต ระยะทางเดินเท้า ประมาณ 1 กิโลเมตรครึ่ง จากที่เราอยู่ไปในเมืองค่ะ รถแถวนั้นก็ไม่มี พ่อแฟนมีรถมอเตอร์ไซค์แต่เขาก็ไม่ให้ลัยใช้ ชีวิตลัยทำไมเจอแต่เรื่องราวเจ็บปวดซ้ำซาก น้ำตาตกในอยู่คนเดียว มันขมขื่นมาก ไม่มีใครพอจะเป็นที่พึ่งพิงได้เลยยามนี้ เดินร้องไห้ไปคนเดียวลูกคนเล็ก ก็กินนมลัยและนมผงควบคู่กัน เพราะน้ำนมลัยมีน้อย ความที่ลัยอยู่แบบอดอยากกินไม่เคยได้อิ่ม สภาพของลัยจากน้ำหนักที่เคยมี 48-50 กก. มาตลอด แต่ตอนนี้นำหนักลัยเหลือเพียง 40 กก. ผอมมากปกติลัยเป็นคนร่างเล็กยิ่งผอมมาก ยิ่งดูไม่ได้เลยค่ะ เงิน 1 พันบาท แบ่งซื้อนมให้ลูกคนเล็ก ได้กินให้อิ่ม พอกลับมาที่กระท่อม เขาก็กลับมาจากทำงานพอดี เขามาบอกขอโทษลัยที่ทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบแต่มันทำให้ลัยต้องมาพบและเสียใจแบบนี้ เขาก็พูดอ้างเหตุผลให้ลัยคิดถึงลูก ลัยเลยมานั่งคิดดูมันก็จริง ถ้าเราเลิกกันไป ลูกคนเล็กต้องตกสภาพเดียวกับลูกชายคนโตอีก ขาดพ่อ ลัยสงสารลูกเลยอดทนกัดฟันอยู่กับเขาต่อไป พอได้เวลาที่ลูกชายคนโตเข้าเกณฑ์เรียนหนังสือ ลัยก็เลยจำต้องพาลูกคนโตกลับไปที่อุบลเราไปกันแค่สองคนแม่ลูก ส่วนคนเล็กทิ้งไว้กับพ่อเขาค่ะ เพราะไม่สะดวกในการเดินทาง พอลัยไปถึงบ้าน ยายและแม่ของลัย เห็นลัยผอมดำมากๆ ท่านทั้งสองถามลัยว่า..ไปทำอะไรมา ลัยเอ๊ย? แต่ก่อนก็ดำอยู่แล้ว แต่นี่กลับมาคราวนี้ทั้งผอมทั้งดำหนักกว่าเก่ามันเกิดอะไรขึ้น? ลัยเองกลัวแม่จะเครียดคิดมากก็เลยไม่พูดหรือเล่าอะไรให้แม่ฟังค่ะ *รอติดตามต่อนะคะ ต้นฉบับยังไม่ส่งมาค่ะ*

ตอนที่ 11 ) อุปสรรคของชีวิต หลังจากลัยพาลูกชายคนโตกลับ ไปเริ่มเข้าเรียนที่อุบลเมื่อจัดการธุระ เรื่องลูกชายคนโตเสร็จสรรพเรียบร้อย ลัยก็เดินทางกลับมาที่ระยองเพื่อดูแล ลูกชายคนเล็กตามหน้าที่ของแม่อีกครั้งนึง พอกลับมาทีนี้ภาระที่ต้องส่งเงิน ให้ลูกชายคนโตเพิ่มขึ้น ลูกชายคนเล็กก็กำลังกิน กำลังนอน แกกินนมเก่งมากเพราะการเจริญเติบโต ตามวัยของแกค่ะ เมื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่แฟนลัยทำงาน มีรายได้เพียงคนเดียวที่ไม่พอใช้จ่าย ก็ยิ่งไม่พอหนักยิ่งขึ้น ความจนนี่มันไม่ปราณีใครจริงๆเลย ลัยจึงปรึกษาแฟนว่า...ขอลัยช่วยทำงาน เพิ่มรายได้เข้ามาอีกคนนึงดีกว่า ลัยขอเขาทำงานที่ไร่มันสำปะหลังด้วย แฟนก็ให้คำปรึกษาว่าแล้วลูกเราล่ะ? ใครจะช่วยเลี้ยงดู ลัยกับแฟนจึงลองเอาลูกไปเลี้ยงด้วย ทำงานในไร่มันไปด้วยค่ะ ลัยผูกเปลให้ลูกนอนในป่าสวนยางใกล้ๆ พอที่เราจะมองลูกได้เห็น ลูกก็นอนบ้าง นั่งเล่นบ้างตามประสาเด็กเล็กๆ เวลาที่ได้ยินเสียงลูกร้อง ลัยก็จะรีบวิ่งไปดูเขาๆหิวก็เอานมให้เขากิน หรือเขาถ่ายหนัก-เบา ลัยก็ทำความสะอาด ให้เขาสบายตัว พอเขาไม่ร้องกวนลัยก็รีบวิ่งกลับมาทำงานต่ออยู่แบบนั้นทั้งวันค่ะ เราโชคดีที่หัวหน้าคุมคนงานใจดี มีเมตตาเข้าใจสภาพชีวิตของครอบครัวเรา เขาจึงไม่ดุว่าอะไรเลยค่ะ ต้องขอบคุณเขามา ณ.ที่นี้ค่ะ แต่เราก็พบอุปสรรคอีกค่ะ เห็นสภาพร่างกายลูกแล้ว สงสารลูกมากจนน้ำตาไหล ยุงกัดลูกตัวน้อยๆเต็มไปหมดเลยค่ะ ลัยเลยตัดสินใจทำงาน ได้แค่วันเดียวจริงๆ พอดีจังหวะหลานสาวเจ้าของไร่มันเธอแวะมาเยี่ยมเจ้าของไร่ซึ่งเป็นคุณยายของเธอ ลัยเลยได้รู้จักพูดคุยกับเธอ เล่าถึงการเงินขาดสภาพคล่องในครอบครัว เธอคงเห็นใจเลยออกปากถามลัยว่าอยากไปทำงานที่โรงงานที่เธอทำงานด้วยกันไหมล่ะ? โรงงานอยู่ในเขตอุตสาหกรรมเขตหนึ่งในจังหวัดระยอง ลัยก็เลยปรึกษาแม่แฟนขอร้องให้ย่าช่วยเลี้ยงหลานให้ลัยหน่อย แต่พ่อแฟนไม่ยอมให้ย่าช่วยเลี้ยงหลานให้ลัยค่ะ หลานเขาแท้ๆนะคะเนี่ย ลัยก็เลยหมดความหวังที่จะได้ไปทำงานเพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวเลยค่ะ ลัยได้แต่แอบเสียใจลึกๆทำไมหนทางชีวิตของลัยมันช่างมีแต่ความมืดมนไร้แสงสว่างแบบนี้ หัวใจมันหดหู้บอกไม่ถูกเมื่อไหร่หนอเราจะลืมตาอ้าปากได้ มีรายได้พอกิน พอเหลือเก็บบ้างก็ไม่รู้ นั่งฝัน นั่งหวังแบบลมๆแล้งๆอยู่คนเดียว

ตอนที่ 13 ) ธาตุแท้ของผู้ชายแฟนลัยคนที่ 2 ลายเริ่มออก ยังโชคดีที่แม่ของลัยมีงานทำแม่ยังไปทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่แม่ก็ยังพอมีเงินบ้าง เวลาแม่ของลัยไปทำงาน ยายของลัยก็จะรับหน้าคอยดูลูกชายลัย ยายทำได้แค่คอยร้องเรียก คอยดูไม่ให้ลูกชายลัยไปเล่นที่ไหนไกลๆ ท่านทำได้แค่นั้นค่ะเพราะท่านเองอายุมากแล้ว เคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนคนปกติ คนแก่น่ะค่ะ ส่วนแม่ของลัยก่อนไปทำงานแม่ก็จะหุงหาอาหารทิ้งไว้ให้ยายทำเผื่อไว้ให้ครอบครัว ลูกชายคนโตของลัยเข้มแข็ง อดทน เขาแกร่งค่ะ เขาสามารถอยู่เองคนเดียวได้โดยไม่ต้องมีใครมาคอยดูแลใกล้ชิดอะไรมากมาย แต่มันก็มีปัญหาเรื่องของเด็กๆ คือลัยมีน้องชายอีก 2 คน เขาสามคนจะไม่ค่อยถูกกัน ชอบทะเลาะมีปากมีเสียงกัน แม่ลัยเองก็ต้องมานั่งเหนื่อยจากการทำงานแล้วต้องมาคอยห้ามทัพเจ้า 3 หนุ่มนี่อีก สงสารแม่มากๆ แต่ลัยไม่รู้จะแก้ไขปัญหา นี้ได้ยังไงจึงต้องปล่อยไปก่อนค่ะ ส่วนทางพ่อของลัยก็มีโรคประจำตัว ตอนหลังนี่ทำงานหนักไม่ค่อยได้เลิกต้องเลิกทำงานก่อสร้าง พ่อจะไปนอนอยู่ที่กระท่อม ในนา ทำไร่ ทำนา เลี้ยงควาย *ควายก็ไม่ใช่ของเราเป็นควายของทางราชการ* พ่อเองมีรายได้เพียงน้อยนิด มีแค่รอเก็บเกี่ยวข้าวในนา พอขายข้าวได้ ต้องหักจ่ายค่าปุ๋ย ซึ่เงินจะเหลือไม่มากนัก ทุกข์ใจกับเรื่องทางครอบครัวพ่อแม่ยังไม่พอ แฟนลัยพอกลับมาทำงานโรงงานเที่ยวหลังนี่ เขาเริ่มติดเพื่อนที่ทำงาน วงจรอุบาศเริ่มกร่ำกรายลัยอีกแล้ว ไหนจะงานเริ่มไม่มีมาก ไม่มีงานโอที ให้เราได้ทำ เงินชักเริ่มขาดสภาพคล่องอีกครั้งหนึ่ง แต่เราก็อดทนอยู่ในสภาพนี้ไป แบบกระท่อน กระแท่น เต็มที จนลูกชายคนเล็กอายุได้ 4 ขวบค่ะ เราชักจะทนไม่ไหวกับงานและความเป็นอยู่ ที่ขัดสน ลัยเลยชวนแฟนเราไปหางาน ทำกันที่ใหม่ดีไหม? หาที่อื่นๆดู เราเลือกดูที่ได้รายได้ดีๆ มีสวัสดิการดีๆ แต่ปรากฏว่า...แฟนบอกไม่ไปค่ะ เขาไม่ชอบการเริ่มต้นใหม่ เขาติดงานสบายที่นี่ และติดเพื่อนที่ทำงานเก่าที่นี่ นี่แหล่ะนิสัยของผู้ชายที่ไม่มีความเป็นผู้นำ ที่ไม่มีความรับผิดชอบ ตอนใหม่ๆอะไรก็ดูดี ทำดีไปหมด อยู่จนนานวัน เริ่มแสดงธาตุแท้ออกมาทีละนิดคิดแต่ความสบายใจของตนเป็นหลัก ไม่เคยคิดถึงอนาคตลูก อนาคตครอบครัวเราในวันข้างหน้าเลย ว่าจะทำยังไงให้มีเงินรายได้เพิ่มขึ้น จะได้มีเก็บ ลัยเหนื่อยจะพูดกับเขาค่ะ ลัยก็เลยจำต้องตัดสินใจไปหางานที่ใหม่ทำไปก่อนคนเดียวที่นิคมอุตสาหกรรม บางปูค่ะ แต่ลัยเป็นพนักงานใหม่ทางโรงงานอนุมัติให้พนักงานใหม่อย่างลัยสามารถทำงานโอที ได้ต่อเมื่อลัยได้ทำงานครบ 2 เดือนค่ะ

ยังมีต่อ


 
 
 

Comments


คลิกดูเรื่องน่าอ่าน
Tag Cloud

ขออภัยกำลังอยู่ใน

ขั้นตอนทำเวปเพจคะ

 ThaiMadam's story

© 2014 by The Book of  Lover "Thai madamstory" Proudly created with Wix.com

  • Facebook B&W
  • Twitter B&W
  • Google+ B&W
bottom of page