top of page

#หย่านี้ที่เยอรมัน @ MadamNoi Germany เป็นเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตที่ไม่ย่อท้อของมาดามน้อยในเยอรมัน

  • @ MadamNoi Germany
  • Jul 18, 2015
  • 3 min read

ตอนที1 บทนำ

#คนเราตอนรักและแต่งงานไม่มีใครคิดถึงเรื่องหย่า แต่เมื่อไปกันไม่รอดด้วยเหตุใดก็ตามจำเป็นต้อง #หย่าค่ะ การหย่าไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอาย ทุกคนมีเหตุและผลส่วนตัวเสมอที่จะหย่า ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วทุกข์ใจ,เสียใจ,เก็บกด,เจ็บตัว,อยากมีสามีใหม่ ฯลฯ

หากเรามีลูกติด เราก็ต้องสู้คะ ตัวเราเอง ลูกของเราด้วย ถ้าเราตัดสินใจที่จะเดินทางสู้ชีวิตด้วยตัวเราเองกับลูกๆ ตามลำพัง บางครั้งอาจพบหนทางใหม่ที่ราบรื่นสดใสกว่าเดิม กัดฟันสู้เพื่อตัวเองและลูกอีกครั้งซิค๊ะ เรามาจะทนทุกข์ทรมานใจไปทำไม? หากทนไม่ได้ หากอยู่ไม่มีอนาคต อยู่อย่างเป็นทุกข์ เคารพการตัดสินใจของตัวเองหลังจากการคิดไตร่ตรองและทางหาทางออกให้ตัวเองให้ได้ ตั้งสติให้มั่นค่ะ และอย่าไปคิดหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าหรือเอาจมูกคนอื่นมาหายใจ โดยคิดโดยหวัง ว่าหากมีชายคนใหม่เข้ามาจะขอพึ่งชายคนใหม่ และหากโชคร้ายซ้ำสองเจอคนไม่ดีอีก จะทำให้ตัวเองรู้สึกแย่มากขึ้น กล่าวโทษชะตาชีวิตตัวเองด้วย

คุณรู้ไหม ผู้ชายในโลกนี้ไม่ใช่จะมีแต่นิสัยดีๆเอาไว้ให้เราเกาะเป็นที่พึงที่อาศัย แต่ยังมีผู้ชายนิสัยไม่ดีอยู่เยอะคะ ผู้ชายนิสัยไม่ดีเหล่านั้น อาจจะเอาจุดอ่อน ตอนเราตกยากลำบากมาหาผลประโยชน์ได้ น้อยอยากให้คุณมีกำลังใจและพยายาม ยืนและเดินด้วยลำแข้งของตัวเองดีที่สุดค่ะ ได้ชื่อว่าเป็นมาดามเมียฝรั่ง น้อยเชื่อในความแกร่ง,อึดและอดทนของทุกคน ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึงเมืองนอกแล้ว สู้ค่ะ!!

ตอนที่2 น้อยวัยสาว

ปี 1993 น้อยเป็นสาวชาวบ้าน ครอบครัวมีหนี้สิน ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรจึงจะทำให้ครอบครัวมีรายได้พ้นภาระหนี้สินได้ สาว18 อย่างน้อย ได้ยินได้ฟังมาหลายอย่าง ว่าพัทยา หาเงินง่าย มีคนเยอะ และเผอจะได้มีสามีฝรั่ง มีอนาคตไกลได้ไปนอกอีกต่างหาก

จึงทำให้น้อยจึงตัดสินใจไปทำงานบาร์ที่พัทยา หากไม่เพราะหนี้สิน,ความจนและความหวังในการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็คงทำงานเป็นสาวบ้านนา อย่างปกติอย่างเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

การไปทำงานครั้งนั้นเพราะน้อย ยังเป็นสาวน้อยสมชื่อ และยังสาวไม่เคยผ่านมือชายใดๆเลย น้อยจึงเริ่มต้นได้แค่เป็นเด็กล้างแก้ว ล้างจาน,เก็บตังค์,ทำความสะอาด มองดูพี่ๆสาวบาร์ เรียนรู้ไปก่อน จนกว่าเวลาผ่านไป เมื่อใจกล้าพอจึงจะไปทำงานอย่างที่รุ่นพี่ๆเขาทำ หรือที่เรียกว่าออกแขก ออกฝรั่งนะแหละ

รายได้ตอนนั้น ก่อนออกแขก1500 ต่อเดือนค่าห้อง800 บาท ถ้าไม่ได้พี่ๆที่เขาออกแขกเลี้ยงข้าว น้อยต้องอดตายค่ะ!!! จึงขอขอบคุณพี่ๆสาวบาร์ที่มีน้ำใจ และชื่นชมพี่ๆสาวบาร์ที่เอื้ออาทรสาวล้างแก้ว อย่างน้อยและที่ได้ช่วยเหลือน้อยในครั้งนั้น

น้อยล้างถ้วยล้างจานได้ 2 เดือน ก็มาเจอหนุ่มใหญ่ ชาวเยอรมัน วัย55 ปีที่เขามาเป็นแขกประจำที่ร้านบาร์แห่งนั้น เขาเป็นหนุ่มใหญ่ มีอันจะกินแหละเพราะเขามีห้องให้เช่าที่เมืองไทยด้วยนะ และในที่สุด น้อยสาว 18 ก็ตกหลุมรักคนอายุเยอะเพราะ รู้สึกอบอุ่น เอาใจใส่น้อยดี น้อยรักเขาทั้งที่ไม่เคยมีแฟน หอบผ้าหอบผ่อนตามชายคนนั้นและ ไม่กลับมาที่บาร์อีกเลยค่ะ ตอนที่ 3 แต่งและหย่า

สมัยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย น้อยก็ไปทำงานเป็นรีเซพชั่นโรงแรมหรือคอนโดมิเนียม แต่ทำได้ไม่นานแฟนก็ไห้ออกเพราะเขาบอกว่าไม่มีเวลาให้เขา สมัยนั้นเทิดทูนผัวไว้บนหิ้ง เขาชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ทั้งรักทั้งบูชาเลยสามีที่รักสุดๆเทิดทูนจริงๆ

หลายปีต่อมามีโอกาสเป็นนายหน้าขายและให้เช่าคอนโด กิจการดีมาก แต่เงินรายรับแฟนเป็นคนเก็บคนเดียว ก่อนหน้าที่จะเจอน้อยแฟนมีคอนโดอยู่เองและให้เช่ารวม 4ห้อง แต่เพราะค่านายหน้าขายและให้เช่าดีมาก จึงมีโอกาสซื้อเพิ่มอีกถึง4ห้อง แต่เป็นชื่อแฟนหมด ด้วยเหตุผลที่ว่า #น้อยอายุยังน้อยเพียง 21-22ปี ความรับผิดชอบไม่สูงพอ นั่นนะที่สามีน้อยพูด ตัวน้อยเองก็มีพูดบ้าง แต่เมื่อพูดตอนไหนก็เป็นทะเลาะกัน น้อยก็เลยตัดปัญหาโดยการ

“หุบปากเงียบ!!” ทั้งที่เป็นสิทธิ์ของน้อยที่เป็นภรรยา แต่จริงๆเขาอาจไม่คิดว่าน้อยเป็นภรรยาก็ได้ เพราะเรายังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน น้อยตอนนั้น คิดแต่รักษาครอบครัวให้สุขแค่นั้น มีกินอยู่ก็พอมีเลยไม่ได้ใส่ใจมากนักในตอนนั้น

เมื่อปี2002ได้ย้ายมาอยู่เยอรมันก่อนหน้านี้มาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าเยี่ยมเยือน แต่ปีนี้มาด้วยวีซ่าเรียนภาษา1ปี แต่เพราะเงินรายได้ของน้อย น้อยและสามีไม่สนับสนุนให้เรียนต่อก็เลยได้เรียนเพียงคอร์สแรก (เทียบกับสมัยนี้คง B1??) เมื่อวีซ่าเรียนหมด ถ้าไม่แต่งงานก็คือต้องกลับเมืองไทย สามีหรือสามีบอยเฟรินก็เลยต้องแต่งมาเป็นสามีจริงในใบเมื่อปี2003 น้อยเองก็แต่งงานด้วยความเต็มใจเพราะตั้งความหวังและรอมานานหลายปี ที่เราจะแต่งงานกัน ตอนที่ 4 ชีวิตในเยอรมัน

หลังแต่งงานเมื่อปี 2005 มีโอกาสมาฝึกงาน(Praktikum)กับบริษัทที่ทำงานปัจจุบันนี้ ก่อนหน้านี้ก็ช่วยสามี ขายของที่ร้านทุกวัน มีเงินบ้างก็ลงทุนซื้อของมือสองมาขายเองบ้างเล็กๆน้อยๆ

เมื่อวีซ่า3ปีใกล้จะหมดสามีจะไม่ยอมเซ็นต่อวีซ่าให้เพราะเห็นว่าเราเริ่มจะปีกกล้าขาแข็งมีงานทำด้วยแหละ และเขาได้เปิดปากอยากได้เงินรายได้เราแหละ โดยขู่ว่า ถ้าไม่ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านก็จะไม่เซ็นต่อวีซ่าให้

ตัวน้อยเองไม่เห็นแก่ตัว และเห็นแก่การมีครอบครัวที่มีความสุขคะ น้อยขอบอกตามตรงเลยว่า ทุกเดือนทุกรายได้ในเมืองนอกที่มีค่าใช้จ่ายสูงปรี๊ดนะ น้อยก็เห็นใจเขา น้อยก็แบ่งให้ครึ่งหนึ่งถึงเกินครึ่งอยู่แล้วทุกเดือน แต่เขาจะเอาหมด เงินตัวเองก็เก็บซ่อนไม่ให้เห็น เงินในบัญชีเขานี่น้อยไม่เคยรับทราบอะไรเลย ช่วงที่น้อยฝึกและทำงานก็มีรายได้ของตัวเองแบบเห็นตัวเลขชัดๆ การมีเงินเป็นของตัวเอง จึงทำให้เรามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเรื่องเงินและเขาก็ไล่ๆๆๆอีกตามเคย

น้อยจึงตัดปัญหา โดยการยกรายได้ของน้อยให้สามีหมดทุกยูโร หมดทุกเซ็นต์ และบอกเขาว่า

“ แล้วอย่ามาหาเรื่องกันอีก”

ตาแก่จอมงก สามีของน้อยยิ่งได้ได้ใจใหญ่ ไม่รู้คิดได้ยังไง เขาก็ไปยืมเงินเถ้าแก่น้อยที่ทำงานแล้วให้เถ้าแก่หักจากเงินเดือนน้อยเลยนะ เพราะยังไงเงินเดือนที่น้อยทำก็ให้เขาทั้งหมดนั่นแหละ หากเถ้าแกไม่บอกน้อย น้อยคงไม่รู้อะไร เป็นทาสสวาทและยังหาเงินให้สามี ขี้งกนั้นต่อไป แต่ดีหน่อยที่เถ้าแก่เขามาถามน้อยก่อนแต่ก็ให้สามียืมได้และใช้หนี้คืนให้เขาค่ะ น้อยทำงานดีทำสุดใจและภูมิใจที่ตัวเองมาอยู่ต่างแดน แต่มีงานทำ เถ้าแก่ก็เอาใจใส่น้อยดี เมื่อน้อยเอาปัญหาไปปรึกษาเถ้าแก่และภรรยาเขาเรื่องวีซ่าเขาเห็นความขยันและความมุ่งมั่น ของน้อย เขาจึงรับน้อยเป็นพนักงานประจำ( Angestellte) และออกเอกสารการมีงานทำประจำนี้ให้ น้อยจึงได้เอาเอกสารการได้ทำงานประจำนี้ไปยื่นขอวีซ่าและได้วีซ่าถาวรมาถึงปัจจุบัน และนี่ก็10ปีผ่านไปแล้วค่ะยังทำงานอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“ขอบคุณเถ้าแก่ที่ให้โอกาสน้อย” น้อยไม่มีวันลืมคะ

ตอนที่ 5 คนนะคน

การที่เถ้าแก่รับเป็นลูกจ้างประจำทำให้สามีแก่ของน้อย โกรธเคืองเถ้าแก่มากที่ช่วยเหลือน้อยไว้ เพราะเขาคงคิดเอาว่าเราต้องไปคุกเข่าอ้อนวอนว่าเขาต้องเซ็นต่อวีซ่าให้ อยากมีอำนาจเหนือน้อยทุกวันทุกเรื่อง ยังกะน้อยเป็นนางทาส ไม่ใช่เมีย เหตุนั้นสามีนะก็โกรธ เถ้าแก่ของน้อยมากๆ เขาไม่อยู่เฉย โทรมาระรานเถ้าแก่ทั่งขู่ว่า

งานของเถ้าแก่ มีรายได้ไม่เสียภาษีถูกต้องบ้าง

มีลูกจ้างที่ไม่ขึ้นกรมแรงงานบ้าง

แต่เถ้าแก่ไม่กลัวเพราะมันไม่จริง และมันเป็นการแสดงสันดานไม่ดี เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ชอบเกะกะระราน

กระทบกระทั่งทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือแตกร้าวกัน, แกล้งทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนของสามีน้อยให้ผู้อื่นเห็นชัดเจนด้วย และโฆษณาแต่ในทางเสียหาย ซึ่งถ้าเจอคนรู้จักในเมืองจะมีแต่คนพูดในทางไม่ดีกับน้อยเสมอ แต่น้อยไม่ใส่ใจ หากใครจะฟังความแต่ตาแก่ข้างเดียวก็เชิญเขาค่ะ

แต่คนที่ฟังคำเขาและรู้จักคิดด้วยดวงจิตและมันสมองตัวเองบ้างก็คงไม่เห็นตามทั้งหมดหรอก

ส่วนตัวน้อยเอง น้อยคิดว่าเราคือเราและเรามั่นใจว่าเราทำดี เราทำได้ เราหากินได้ เรามีกำลังที่จะดูแลตัวเอง เรา ก็ไม่ต้องเป็นทุกข์ ความเป็นคนเกเรระรานของสามีน้อยนั้นแสดงออกมาให้เห็นอยู่เนื่องๆ

เมื่อครั้งอยู่ด้วยกันสามีเขาชอบไล่น้อยออกจากบ้านเสมอ ผิดหรือถูกไล่ตลอด แต่ดีกว่าตอนที่อยู่ไทย เพราะเขาเคยลงมือตีน้อย จนหูอื้อ และเยอรมัน เขาออกทางด่า ไล่ออกจากบ้านบ่อยหนัก และเป็นนิสัยสันดานของคนดื่ม และที่น้อยไม่ชอบนั้นคือสามีเฒ่าไม่อยู่เฉยๆชอบนอกใจเป็นประจำ แต่น้อยจะทำไงได้รักและเลือกที่จะอยู่กับเขาไปแล้วเลยจำเป็นต้องทน

ตอนที่ 6 สุดทน

เขาไล่น้อย ครั้งสุดท้ายที่เขาไล่น้อยนั้นไม่ได้ไล่เพียงปาก เขาได้ใช้ทนายโดยมีจดหมายที่เขียนจากทนายและต้องย้ายออกจากบ้านภายใน 14วัน เพราะเขาไปมีหญิงคนใหม่ที่เมืองไทย จะรับมาอยู่ด้วย และน้อยเองก็รับไม่ได้ในจุดนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วน้อยก็ยอมรับสภาพมาตลอด

แต่คราวนี้น้อยเจ็บๆ มากๆ เพราะน้อยเป็นคนออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ไปพักผ่อนที่เมืองไทยและแถมยังเอาเงินสดที่ไปยืมเถ้าแก่ให้ติดตัวไปอีก2000€. แต่พอกลับมาเยอรมันก็โทรหากันกับสาวคนใหม่ ค่าโทรศัพท์เดือนละร้อยถึงสองร้อยยูโรทุกเดือน และค่าโทรศัพท์นั้นก็ หักจากบัญชีน้อยอีก

หาเงินเลี้ยงสามีแก่ แถมยังนังหนูของสามีแก่อีก

โอ้ย!!!! แล้วน้อยจะทำยังไงละ ก็โกรธมากๆนะซิ หาเงินงกๆแต่เอาไปเสียค่าโทรศัพท์ให้สามีโทรหากิ๊ก

น้อยไม่ใช่พระอิฐพระปูนคะ มันก็ต้อฮึดฮัด อาละวาด กันได้ นี่แหละเป็นเหตุให้เขา เขียนจดหมายจากทนายมาไล่ออกจากบ้าน หากใครเจออย่างน้อยจะรู้ คิดไว้นะหากคุณๆเจอเหตุการณ์อย่างนี้จะทำอย่างไร อ่านตัวบทกฎหมายของประเทศที่คุณอาศัยอยู่ให้ดี ปรึกษาผู้รู้ด้วยคะ อย่าทุกข์คนเดียว อย่าทนจนเป็นโรคประสาท เราต้องอยู่ให้ได้ เราต้องเข้มแข็ง น้อยนะอยู่ได้ เพราะน้อยมีงาน มีรายได้ คะ เพราะฉะนั้น คุณๆต้องหางานทำและยืนด้วยลำแข็งของเราเองนี่คือชีวิตของเรานะคะ ไม่ใช่ของคนอื่น

เหตุชีวิตรักของน้อยไม่ราบรื่น ตัวน้อยเองก็สอดส่องอ่านไปเรื่อยๆ และข้อนี้น้อยก็ชอบอ่านนั่นนี้ หาความรู้ใส่ตัวเสมอ และความรู้นี้ก็ช่วยน้อยได้

น้อยเคยอ่านเจออยู่บ่อยๆ กับการแสดงความคิดเห็นในกรณีสามีมีชู้, มีกิ๊ก,นอกใจ กับคำพูดที่ว่า #ฟ้องหย่ามันเลย! #ฟ้องให้หมดตัวเลย! #หาทนายดีๆเก่งๆมาช่วย ถ้าในเยอรมันลืมไปได้เลยค่ะ

ตอนที่ 7 กฎหมายหย่า

@ฟ้องหย่าคู่สมรสกรณีนอกใจ กฎหมายเยอรมันเลิกแล้วค่ะ ( Schuldfrage =ใครผิด ใครถูก ไม่มีแล้วค่ะ) @การหย่าในเยอรมันต้องแยกกันอยู่อย่างน้อย 1ปี (Trennungsjahr)ถึงจะสามารถหย่าได้ และที่จะหาทนายดีๆเก่งมาช่วย ก็ลืมไปได้เลยเพราะทนายเขาเสียค่าเรียนมาแพงจะตาย โอกาสที่เขาจะถอนทุนคืนก็ตอนนี้แหล่ะค่ะ ถ้าใครต้องใช้ล่ามแปลเอกสารเพิ่มด้วยก็ยิ่งแพงขึ้นค่ะ และศาลจะถามเราด้วยว่าจะเอาล่ามใหมและเขาจะeinordnend-หาล่ามให้ @การหย่าตามกฎหมายเยอรมันต้องใช้ทนาย ถ้าตกลงแบ่งสินสมรสกับคู่กรณี(สามี)ใด้ น้อยแนะนำให้ใช้ทนายร่วมกันจะเป็นการประหยัดและไม่ยุ่งยาก ทนายเป็นเพียงผู้เดินเรื่องหย่าให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น กฎหมายที่นี่หย่าโดยไม่ใช้ทนายไม่ได้ ไม่เหมือนเมืองไทย ขึ้นอำเภอ เซ็นชื่อทั้งสองฝ่าย จบ!! ความสงสารเห็นใจของทนายน้อยคิดว่าหาแทบไม่มีค่ะ น้อยมีเพื่อนทำอาชีพนี้เขายังเป็นคนพูดเองเลยค่ะว่า ก็แค่ลูกความ! ความสงสารสงสารจ่ายบิลไม่ได้!! #Mitleid kann keine Rechnung bezahlen!! @การฟ้องหย่า ฟ้องได้เพียงสินสมรสเท่านั้น ( zugewinngemeinschaft) และถ้าคู่สมรสทำสัญญาแยกทรัพย์สมบัติก่อนแต่ง(Ehevertrag) ก็จะเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ค่อนข้างยากมากที่จะไปฟ้องขอแบ่ง เพราะเราเซ็นสัญญาก่อนจดทะเบียนไปด้วยความเต็มใจไปแล้วนี้ค๊ะ และศาลจะเป็นผู้ตัดสินในการแบ่งเงินบำนาญตามระยะเวลาสมรสให้กับคู่สมรส (Versorgungsausgleich) ใครจะเอาหรือไม่ ศาลและทนายจะถามอิกทีค่ะ แต่ต้องแจ้งตามกฎหมาย ศาลจะเป็นผู้ตัดสินค่ะ @ถ้าหากคู่สมรสมีบุตรร่วมกัน ศาล-กฏหมายจะคุ้มครองเด็กเป็นอย่างแรก (Wohl des Kindes) ค่าเลี้ยงดูบุตร (unterhalt) ศาลจะตัดสินจากเงินเดือน-รายรับของพ่อและแม่เด็ก และที่สำคัญต้องรับผิดชอบลูกทั้งสองฝ่าย และอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเด็กอายุไม่เกิน 18ปี (ลูกจะเลือกอยู่กับใครก็อีกข้อหนึ่ง) และต้องเป็นบุตรร่วมกันหรือบุตรบุญธรรมที่มีการรับอย่าถูกต้องตามกฎหมายที่นี่เท่านั้นที่มีสิทธิ์รับค่าเลี้ยงดูจากอีกฝ่าย ลูกติดไม่เกี่ยวค่ะ @กฎหมายหย่าเยอรมันได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเมื่อปี2008 (neu Scheidungsrecht) มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ไปค้นหาเพิ่มเติมกันดูนะค๊ะ แต่ที่แน่ๆเลิกเข้าข้างฝ่ายภรรยา จะไม่เหมือนสมัยก่อนที่ฝ่ายภรรยาถ้าเลิกกับสามีแล้วฟ้องร้องค่าเลี้ยงดูจากสามีได้ ยิ่งถ้ามีลูกด้วยจะเอาจุดนี้มาอ้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวกันซะหลายคน กฎหมายสงสัยว่าจะโมฆะไปแล้วค่ะ ตอนที่ 8 กฎหมายหย่าและอิสระซะที!!!

@และในกรณีที่อยู่ร่วมกันโดยไม่มีการสมรสเดี๋ยวนี้มีกฎหมายใหม่คุ้มครองในจุดนี้ได้หากมีหลักฐานเพียงพอมาแสดงว่ามีทรัพย์สินร่วมกันช่วงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่หลักฐานต้องแน่ชัดค่ะ ตัวอย่างเช่น ผ่อนบ้าน,อพาทเม้นต์ร่วมกัน ซื้อรถหรูหราร่วมกัน ฯลฯ เรามีสิทธ์ฟ้องขอแบ่งได้ @หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะฟ้องร้องค่าเลี้ยงดูจากคู่สมรส สมัยนี้คงยากมากหรือแทบจะไม่ได้ด้วยซำ้ @และถ้าคุณไม่บาดเจ็บสาหัส ป่วยหนัก พิการ คุณต้องทำงานช่วยเหลือตัวเองจะฟ้องร้องค่าเลี้ยงดูจากสามีไม่ได้ ถ้าหากคุณไม่มีรายได้ หรือรายได้ไม่เพียงพอ ตกอยู่ประมาณ8-900€ หักภาษีแล้ว (Selbstbehalten) ??สามารถขอความช่วยเหลือจากรัฐได้ (Sozialhilfe)ในส่วนของลูกอายุไม่เกิน18ปีรัฐก็จะมีเงินเด็กให้(Kindergeld) 💰กฎหมายคุ้มครองเด็กอายุไม่เกิน18ปี,ค่าเลี้ยงดูลูก(Unterhalt) และเงินเด็ก(Kindergeld) น้อยไม่แน่ใจเพราะไม่มีประสบการณ์ตรงนี้ค่ะ ค้นหาเพิ่มเติมนะคะ @ชีวิตเมียฝรั่งที่ต้องมาระเหเร่ร่อนในต่างแดน ไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัวคนเดียว ต้องอึดจริงๆค่ะ น้อยโชคดีที่มีงานประจำ,มีเถ้าแก่และภรรยา,เพื่อนๆและเพื่อนร่วมงาน ที่เขาหยิบยื่นมิตรไมตรีและความช่วยเหลืออย่างดีเยี่ยม เถ้าแก่ช่วยออกค่าทำใบขับขี่,ช่วยผ่อนรถเก่าๆมาขับไปทำงาน ขาดเหลืออะไรขอให้เอ่ยปากบอก เถ้าแก่อนุมัติทันที แต่ก็ต้องคืนทุกยูโรนะคะ ดอกเบี้ยไม่มี ผ่อนตามกำลังเงินได้ค่ะ ไม่งั้นคงตายอย่างเขียดแน่ๆค่ะ (บุญคุณนี้ไม่รู้ว่าชาตินี้จะใช้หมดรึเปล่าไม่รู้ ) หากใครคิดที่จะทำ(บ้าๆ)อย่างน้อย มีทนายของตัวเองในการทำเรื่องหย่า Prozesskostenhilfe น้อยมีเหตุผล(ส่วนตัว)เพราะสามีเก่าเห็นแก่ตัวมาก ก็ต้องรับสถานภาพตัวเองไปโดยดี ก็คือ ต้องจ่ายคืนรัฐที่ให้รัฐจ่ายค่าทนายให้ เหตุเพราะน้อยมีงานทำประจำเต็มวัน เงินเดือนก็ใช่ว่าจะมากมาย 1200€ ยังไม่หักภาษี ก็เลยต้องขอให้รัฐช่วยจ่ายค่าทนายในการหย่า เรื่องยาวยืดเยื้อถึง 3ปี แต่แยกกันอยู่มาก่อนหน้านี้แล้ว2ปี มีจดหมายจากทนายเราและทนายคู่กรณีมาเป็นระยะๆ อ่านเองแปลเองถามแฟน(สามีคนปัจจุบัน),เพื่อนร่วมงานชาวเยอรมัน และเถ้าแก่ เพราะอยากประหยัดค่าล่าม ใช้เวลานานมากเพราะสามีขี้งก กลัวที่จะต้องแบ่งทรัพย์สมบัติ ไม่ยอมยื่นเอกสารแจ้งศาล ทั้งๆที่เราเซ็นไปกับทนายไปแล้วว่าไม่เอาอะไรทั้งสิ้น จะหย่าอย่างเดียว และที่สำคัญสามีเก่าเป็นคนยื่นเรื่องหย่าให้ศาล ไม่ใช่น้อยค่ะ แต่อย่างที่เล่ามา ตามกฎหมายคู่สมรสจะเอาหรือไม่ก็ต้องแจ้งเพื่อ ทำ Versorgungsausgleich ค่ะ

ชีวิตรักของน้อยเป็นอันสิ้นสุด เราก็หย่ากันในประเทศเยอรมัน (nach deutschen Recht)จากวันนั้น เราอยู่กินกันมารวมทั้งสิ้น14ปี ระยะเวลาแต่งงานเกือบ3ปี

“อิสระซะที!!! กายจิตและวิญญาณของน้อย”

หย่าเสร็จ เมื่อ13.3.2013 (เลขสวย😁😂) ตั้งใจไว้อย่างดีจะฉลองใหญ่ ในวันหย่าลงทุนซื้อแชมเปน1ขวด ดั๊น!! ไข้ขึ้น40องศา ลุกไม่ขึ้นไป2อาทิตย์เต็มๆ ไอเป็นเลือดเลย ไวรัสลงปอดค่ะคนตอมใจร่างกายก็ขาดภูมิต้านทานคะ😁😁 ตอนที่ 9 ชีวิตหลังหย่า

หลังจากสามีไล่ออกจากบ้านก็ย้ายมาเช่าห้องเล็กอยู่คนเดียว ประชดชีวิตด้วยการทำงานๆๆๆ บ้างานจนติดเป็นสันดานมาถึงปัจจุบัน ทำทั้งเต็มวันและมินิงาน 2-3ที่ ทั้งเดือนกลับมานอนห้อง 2-3คืนหรือไม่กลับค่ะ นอนที่ทำงานหรือตามโรงแรมที่ติดตามเขาไปทำงาน งานประจำน้อยทำเกี่ยวกับซ่อมแซมตบแต่งของเก่า-โบราณ (Restaurationen) แต่ถ้าน้อยแปลเองก็กรรมกรค่ะ เพราะงานหนักมากใช้แรงเยอะยืนทั้งวันๆละ8-14ชม แต่เต็มใจทำและชอบงานนี้มาก และรับงานไปช่วยเถ้าแก่ตามงานแสดงสินค้าตามเมืองและประเทศต่างๆ และรับเลี้ยงลูกให้ผู้มีอันจะกินเศรษฐีเยอรมัน เด็ก1,2,3,5,7คน รับไม่อั้นค่ะ เงินๆๆๆงานๆๆๆ

ตัวน้อยเองนะไม่เคยเลือกงาน งานอะไรก็ได้ขอให้สุจริตและขอให้ได้เงินค่ะ เหนื่อยมากแต่มีความสุข ไม่มีใครกดดันเหมือนแต่ก่อน คนรอบข้างช่วยเหลือเกื้อกูลดีมาก แต่ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นอย่างแรก ตอนย้ายออกมาอยู่ตัวคนเดียว2ปี อย่าว่าแต่เริ่มจากศูนย์เลยค่ะ ขอพูดว่าติดลบเลยละกัน เงินติดตัวก็ไม่มีซักเซ็นต์เดียว ค่าเช่าห้อง2-3เดือนแรกและค่ามัดจำห้อง ต้องยืมเถ้าแก่ หนี้สินที่ไปยืมเถ้าแก่เอามาให้สามีเก่ายามฉุกเฉินสมัยอยู่ด้วยกัน ห้า-หกพันยูโรก็ต้องรับผิดชอบเอง

สามีเก่าของน้อยก็ไม่ใช่คนธรรมดานะ สถานภาพการเงิน ชีวิตของเขามั่นคง แต่เขาก็ยังอยากได้และใจดำจริงๆ สมัยอยู่ด้วยกันเงินเดือนน้อยก็ยกให้สามี เอาไปใช้จ่ายในบ้านหมด เพราะถ้าไม่ให้ก็ทะเลาะกัน แล้วก็ไล่ๆๆๆๆค่ะ

หน้าหนาวอุณหภูมิต่ำมาก ติดลบ10องศา ปั่นจักยานไปทำงาน12กิโลเมตร กลับ 12 กิโลเมตร และทำงาน 8โมงเช้า ถึงสองทุ่ม ในช่วงซัมเมอร์ หรือฤดูร้อน น้อยก็พอทนได้ แต่ในช่วงฤดูหนาว ท้องฟ้าบ้านเขาจะมืดเร็วอาจตั้งแต่บ่ายสี่โมงมืดแล้ว หิมะตกปรอย ถนนกลับบ้านมีแต่หิมะ มองไปทางไหนก็ขาวโพลนไปหมด มืดๆหนาวๆ นี่แหละการไปหาเงินที่ต่างแดนที่บอกว่าได้เงินเยอะและส่งให้ญาติๆ พ่อแม่พี่น้อง และมีคนอยากยืมนะคะ มาซิมาทำหาเงิน ไม่ได้ง่ายนะ และคุณจะทำได้อย่างน้อยไหม ต้องอดต้องทน ต้องสู้จริงๆจึงได้เงินคะ

สามีเก่านะก็ไล่น้อยมาตลอดหากทะเลาะกัน ไม่ไล่อย่างเดียวนะ บางครั้งนะเขาก็เปลี่ยนลูกกุญแจบ้านด้วย หากกลับมาจากทำงานหนาวๆสั่นเทาอย่างนี้และพอเปิดกุญแจและเปิดไม่ได้ คิดดูค่ะ ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน หนาวสั่นและเข้าบ้านไม่ได้

ทำไงดีล่ะค๊ะ? ร้องไห้เหรอ แค่นั้นเหรอที่ทำได้

ร้องไห้นำตาก็เป็นน้ำแข็งซิ ยิ่งหนาวๆด้วย ยังจำฝังใจค่ะ ใครจะช่วยได้ละ น้อยเท่านั้นที่จะต้องช่วยตัวเอง

นี่ละสามีเก่า เจ้าหัวใจสมัยโน้น 14ปีที่อยู่ด้วยกัน ตอนที่ 10 รัฐ ติดตามหลังหย่า

@1ปีหลังหย่าผ่านไป มีจดหมายจากศาลตามมาสอบถามสภาวะการเงินของน้อย (Verfahrenskostenhilfe)ว่าจนเท่าเดิมหรือจนน้อยลง ตามใบแบบฟอร์มที่ศาลแจ้งมา เราต้องแจ้งสลิปเงินเดือนย้อนหลัง เงินเดือนเพิ่มหรือเปล่า เพิ่มเท่าไหร่ มีโบนัสหรือเปล่า มีเงินในบัญชีธนาคารทุกบัญชีเท่าไหร่ มีทอง มีเพชร มีแบรนด์เนมก็ต้องแจ้ง รถที่ใช้เป็นยังไง รถเก่าแค่ใหนยี่ห้ออะไร มีบ้าน มีห้อง อันใหนที่คิดเป็นเงินได้ต้องแจ้งหมด แค่เพิ่ม50€ ก็นับค่ะ ถ้าหากมีพิรุธว่าแจ้งไม่ตรงตามจริง จนเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสถานภาพของคุณถึงบ้านแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้านะคะ (Gerichtsvollzieher) หากเขาพบว่าคุณได้แจ้งข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือให้การเท็จกับรัฐ คุณจะมีความผิดตามกฎหมาย เรื่องราวจะยุ่งยากไปกันใหญ่นะคะ @แต่ถ้าหากสภาวะเงินของคุณยังเท่าเดิมก็แจ้งตามความจริง อย่าปกปิดบิดพริ้วเด็ดขาดค่ะ รัฐก็จะไม่เอาคืนค่ะ และเขาจะมีจดหมายมาถามอย่างนี้ทุกๆปีเป็นระยะเวลา4ปีค่ะ @ถ้าหากว่าคุณต้องคืนรัฐอย่างน้อย เพราะระบบการเงินดีขึ้น มีห้องเป็นชื่อตัวเอง จะไปโกหกไม่ได้เพราะสัญญาซื้ออสังหาริมทรัพย์จะมีใบขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติที่Finanzamt และหากคุณไม่สามารถจ่ายหมดได้ในครั้งเดียว รัฐก็ไม่ใจร้ายหักเอาเงินในครั้งเดียวค่ะ รัฐก็คนธรรมดานี่แหละบริหารจัดการ เขาสัมภาษณ์ พูดคุยและตุกลงให้คุณสามารถผ่อนได้ตามรายรับของตัวคุณที่แจ้งศาลไป แล้วเจ้าหน้าที่ศาลจะแจ้งจดหมายจำนวนเงินผ่อนมาอีกรอบค่ะ #อย่าลืมว่าเงินที่รัฐเอามาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเงิน Sozialehilfe หรือ Prozesskostenhilfe เป็นเงินภาษีประชาชน ถ้ามีเราควรคืนกลับไปค่ะ และถ้าหากในอนาคตใครขอเงินตัวนี้อาจมีผลในการขอวีซ่าถาวรหรือการทำ 2พาสปอร์ตได้ค่ะ สามีเก่าไม่ใช่คนจน มีคอนโดติดทะเลให้เช่าที่พัทยาถึง8ห้องๆ2ล้านกว่า (4ห้องน้อยช่วยหา) ที่เยอรมันมีบ้าน1หลังมีอพาร์ตเมนต์ใหญ่ 1 ห้อง แต่มันช่วยอะไรน้อยได้ ถ้าคนมันงกและเห็นแก่ตัวเขาก็ทำทุกอย่างที่เขาจะไม่ให้เรา เรื่องส่งเงินให้แม่ไม่ต้องไปถามบาทสลึงก็ไม่ให้ เมื่อตอนเลิกกันแล้วน้อยออกมาลุยชีวิตด้วยตัวเองในเยอรมัน มีก็กินไม่มีก็อด หลังจากนั้นมีปัญหาซื้อที่นาให้แม่ 10ไร่ ไถ่ที่บ้านคืนให้แม่ สร้างบ้านให้แม่1หลัง ถึงมันจะไม่หรูหรามากมาย แต่หยาดเหงื่อแรงงานตัวเองค่ะ ตัวน้อยเองจ่ายคืนเต็มจำนวนให้รัฐหมดเรียบร้อยเพราะอยากให้ชีวิตบัดซบจบๆเรื่องไป นิยายชีวิตกับสามีเก่าจบเล่ม โยนทิ้งขยะค่ะ

ตอนที่ 11 รักใหม่สดใสกว่ารักเดิม

ปี 2010 หลังจากมาได้สองสามปี น้อยอายุ 32 ปีแล้วคะตอนนั้น

มีคนรู้จักแนะนำหนุ่มคนหนึ่งให้ หนุ่มคนนี้ไม่ได้ร่ำรวยแต่ความรับผิดชอบสูง มีการงานที่มั่นคง รักและตามใจน้อย และในที่สุดเขาก็เป็นสามีคนใหม่ของน้อยคะ

เขา ดูแลน้อยอย่างดี ถึงน้อยมีรายได้ของตัวเองแต่เขาก็ให้เงินเดือนเพราะเขาทิ้งบ้านตัวเองย้ายมาอยู่ในห้องเช่าเล็กๆกับน้อย (เพราะน้อยไม่ยอมย้ายไปอยู่บ้านเขา) พี่แกบอก ; มันเป็นหน้าที่,ตามกฎของคนรักเมีย (Pflicht) 😜😜 ชีวิตและการเงินเริ่มดีขึ้น ใช้หนี้หมด ซื้อรถใหม่เอี่ยมให้รางวัลตัวเอง แบรนด์เนมตามใจอยาก ซื้ออพาร์ตเมนต์เม้นให้ตัวเองอีก 1 ห้อง นี่คือรางวัลชีวิตของคนขยัน และคนไม่ท้อ คนสู้ชีวิต หากคุณทำอย่างน้อยคุณก็ทำได้เหมือนกัน หากโอกาสดีๆอาจจะทำได้ดีกว่าน้อยก็ได้ ใครจะไปรู้ คนสู้ชีวิต อดทน จนเจอความสุขในชีวิตครั้งนี้แหล่ะค่ะ

ที่เขียนเล่าประสบการณ์ ของตนเองเพื่อ เป็นอุทาหรณ์,ข้อคิดเตือนใจให้คนที่กำลังจะหย่าหรือคิดที่จะหย่า อย่าคิดว่าคุณโชคร้าย อย่าท้อ ต้องสู้ ต้องยืนหยัดด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครคิดจะสู้เพื่อเราหากเราไม่ยืนหยัดด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครให้กำลังใจเราตลอดหากเราไม่ให้กำลังใจของตนเอง

ฝากเป็นข้อคิดให้หลายๆคน จากประสบการณ์ตัวเองที่เจอมาภาษาสำคัญมากหากใครที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน ใครมีโอกาสเรียนก็อย่าปล่อยให้เสียไปเปล่าๆ ตั้งใจและขวานขวายเรียนค่ะ ความรู้ติดตัวไม่หนักค่ะจะมีก็แต่ประโยชน์ล้วนๆ คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ไม่รู้นี่ค๊ะว่าตายวันตายพรุ่งและจะได้เกิดใหม่หรือเปล่า สวรรค์-นรก เราชาวพุทธเชื่อถือกันทุกคน แต่ไม่มีใครรู้ว่าหลังตายแล้วเราจะตกนรก หรือขึ้นสรรค์กันแน่

แต่ขณะที่ยังไม่ตายนี้ เราเลือกเส้นทางชีวิตกันได้ น้อยจะไม่ขอตกนรกทั้งเป็น!!!เหมือนกับสมัยชีวิตที่อยู่กับสามีเก่าคะ ตอนนี้น้อยยังมีชีวิตอยู่ น้อยขอหาความสุขให้ตัวเอง,ครอบครัวและคนที่เรารักโดยไม่ผิดศิลธรรม ไม่เดือดร้อนผู้อื่นค่ะ จนแต่สุขใจดีกว่าค่ะ

ชีวิตของน้อยจะราบรื่น มีความสุข ขนาดนี้ไม่ได้ หากไม่มีคนเหล่านี้

ขอขอบคุณเถ้าแก่และครอบครัว และสามีสุดที่รักคนนี้และคนรอบข้างทุกคน และขอบคุณที่อ่านคร้า

นี่คือประสบการณ์ของน้อยและเป็นความคิดของน้อยคะ หากท่านใดมีความคิดเห็นเพิ่มเติม ก็มาช่วยน้อยเขียนเพิ่มเติมได้คะ มาช่วยกันแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ให้กันและกันนะคะ

ขอให้ โชคดีทุกคนนะคะชาวเรื่องเล่ามาดาม

https://www.facebook.com/nangnoi.phalana?fref=ufi


 
 
 

Comments


คลิกดูเรื่องน่าอ่าน
Tag Cloud

ขออภัยกำลังอยู่ใน

ขั้นตอนทำเวปเพจคะ

 ThaiMadam's story

© 2014 by The Book of  Lover "Thai madamstory" Proudly created with Wix.com

  • Facebook B&W
  • Twitter B&W
  • Google+ B&W
bottom of page