top of page

เอมมิกา เด็กสาวที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้ดั่งฝัน ถึงแม้เธอจะเกิดจากครอบครัวชาวบ้าน แต่วันนี้เธอทำได้

  • เอมมิกา เยอรมัน( นิรนามเรียบเรียง)
  • Apr 10, 2015
  • 4 min read

ตอนที่ 1 ชีวิตของเอ

เอมมิกา หรือ เอ เด็กสาวธรรมดาผู้มีความฝันและได้ เดินตามฝัน เอเด็กบ้านๆ ครอบครัวฐานะยากจนและมีหนี้สินจากการที่พ่อของเอเล่นการพนัน เอมีพี่น้อง 3 คน ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้ทำงานเอง เพื่อให้ตัวเองมีอนาคต ส่วนเอนั้นทำงานโดยต้องคอยออกรับจ้างเสาร์อาทิตย์ เพื่อหาเงินค่าขนมไปโรงเรียน พี่สาวของเอ ทำงานเป็นรีเซฟชั่นในร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา เมื่อเอจบประถม 6 ก็ต้องหาเงินเพื่อที่จะเตรียมเข้ามัธยม1 เอหาเงินเรียนจากการรับจ้างทั่วไปจนจบมัธยมปลาย

เอ เข้ามาพัทยาครั้งแรกตอนอา

ยุ 12ปี และพี่สาวของเอฝากงานให้ ร้านตัดผ้าเจ้าของเป็นแขกอินเดียแห่งหนึ่งในว๊อคกิ้ง สตีท สมัยนั้นยังไม่มีว๊อคกิ้ง สตรีทของพัทยาด้วยซ้ำ เอ ทำงานขยันขันแข็ง หลังจากนั้น พอปิดเทอมทุกครั้งเอ ก็ต้องมาทำงานพาสทามจนจบมัธยม 6 เพื่อที่จะได้มีเงินซื้อหนังสือและค่าเทอม ส่วนใหญ่จะเลือกทำตามร้านอาหารเพราะว่า เอไม่ต้องเสียค่ากับข้าวและทิปจากลูกค้า ตอนที่เอ มาทำงานพาสทามตามร้านอาหาร บ่อยครั้งที่เอเดินผ่านตามออฟฟิต และเห็นสาวๆออฟฟิตนั่งรับโทรศัพท์ คุยกับลูกค้านักท่องเที่ยว เอก็แอบอิจฉา และอยากทำงานกับนักท่องเที่ยวในบริษัท ทัวร์ สักแห่ง

หลังเอเรียนจบมัธยม 6 เอเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก พี่สาวของเอแต่งงานกับชาวอเมริกัน และมีลูกเล็กๆ พี่สาวมีลูกติด กับคนไทยอีกสองคน เพื่ออนาคตของลูกๆ พี่สาวจึงต้องเดินเรื่องหลานๆไปอยู่ต่างประเทศด้วย ดังนั้นเอคิดว่า เอมีหนทางที่จะได้งานทำดีๆ ถ้าเอมีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษและเอต้องพยายามทำให้ได้

Emmika.png

ตอนที่ 2 เลือกทางชีวิต

เอตัดสินใจที่จะขอไปอยู่กับพี่สาวเพื่อที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษโดยบอกพี่สาวว่าจะดูแลหลานๆเป็นการตอบแทน และช่วยงานทุกอย่างในบ้านเท่าที่เอจะช่วยได้ พี่เขยของเอ เป็นทหาร อเมริกัน และจำไปทำงานที่ เกาหลี เอจึงเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวและเรียนภาษาอังกฤษในค่ายทหารอเมริกัน พี่เขยเอเป็นทหารจึงรับรองให้เอได้สิทธ์ในการเรียน ภาษาฟรี

นี่คือการเดินไปในเส้นชีวิตตามทางความฝัน เอ ณ ตอนนั้นอายุ 17-18 เอทำได้คะ ด้วยความขยัน อ่านเขียนท่องจำ จดบันทึกและฝึกๆๆจนเป็นนิสัย จึง สามารถเรียนภาษาและพูดได้อย่างเร็วหลังจากสามเดือนผ่านไป เอสามารถฟัง เขียน อ่านได้ เอ ดีใจสุดๆเพราะเอาทำได้

เอมีความภาคภูมิใจในผลสำเร็จในครั้งนี้ ที่ผ่านมา เอยังไม่ละความพยายามในการเรียนต่อ เอพยายามที่จะเรียนให้ได้เยอะๆ เอเห็นความสำเร็จของตัวเอ ง พี่สาว พี่เขยให้โอกาสส่งเสริม เอยิ่งเพียรหนักขึ้น แต่ไม่ได้ละ งานที่รับผิดชอบ เอมีเวลาแค่ 6เดือน หลังจากนั้นพี่สาวก็ต้องย้ายกลับไปอยู่อเมริกา และเอก็ทำได้ เอพูดและเขียนอ่านภาษาอังกฤษได้ดีในเวลา 6 เดือนนั้น

ตอนที่ 3 ความโชคดีมีงานทำ

โชคดีของเออีกหลังจากเอจบการไปเรียนภาษาอังกฤษในครั้งนั้น เพื่อนพี่สาว เอ กำลังเปิดบริษัท ทัวร์ที่พัทยาเหนือ ซ 6 ทีนี้เขากำลังมองหาพนักงาน พี่สาวกลับอเมริกาและไม่ลืมฝากเอให้ทำงานกับเพื่อนสาวของเธอ

อายุ 18 ปี ความฝันใกล้เป็นความจริงแรกคือ เอมาฝึกงานที่ออฟฟิต ทัวร์ ทำทุกอย่าง จองตั๋วเครื่องบิน แปลภาษา และ ทัวร์ทั่วไปในพัทยาและต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซอยที่เอทำงานมีแต่บาร์เยอะแยะไปหมด ชีวิตเอได้รู้จักสาวบาร์ เยอะมาก และได้รู้จักชีวิตที่แท้จริง ของสาวบาร์ และเทคนิค และลวงหลอกของสาวบาร์ หรือการรักจริงของเธอสาวๆเหล่านนี้ เพราะเอเป็นคนแปลจดหมายส่งถึงคนรักของเธอที่เป็นชาวต่างชาติ

จากการทำงานนี้ เอเห็นรายได้แต่ละคนสมัย 15 ปีที่ผ่านมา เธอได้เงินเดือนละหลายหมื่นบาท บางคนเป็นแสน จากการที่บรรดาแฟนๆหลายๆคนของเธอส่งให้ ด้วยเงินรายเดือนปกติ หรือเทคนิคพิเศษ ร้อยเลห์ร้อยกล บนพื้นฐานของความเอาตัวรอดและความรักความเห็นใจของหนุ่มต่างแดน แต่เอก็ไม่เคยอิจฉาเขา มีแต่มิตรภาพที่ดีให้ ทั้งๆที่เอเงินเดือนไม่กี่พันบาทเพราะตอนนั้นเป็นเด็กฝึกงาน พี่ๆ สาวบาร์คนสวยที่สำเร็จและมีน้ำใจก็ซื้อโน่นนี่มาฝากบ้าง เขาคงเอ็นดูเอในตอนนั้น บางครั้งมีบริการเอาจดหมายไปส่งที่บาร์ด้วย

การทำงานเป็นคนแปลจดหมายก็มีกฎเหล็กคะ “ห้ามฝากไว้กับใครที่ไม่ใช่เจ้าของจดหมายเด็ดขาด” เพราะบางทีเขาอิจฉากัน อาจมีการแกล้งกันทำให้เสีย โอกาส หรือผลประโยชน์ต่างๆได้ กลัวโดนแกล้ง ประมาณนั้น ถ้าพี่ๆ ติดแขก ทำงานยู่ข้างบน คือมีแขก เอก็จะต้องถือจดหมายกลับและไปส่งอีกภายหลัง

ตอนที่ 4 ความรัก เอเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี สเป๊กฝรั่งก็ว่าได้ ผิวสีแทน ดังนั้น ก็มีหนุ่มๆต่างชาติมาชอบเยอะ แต่เอก็ไม่สนใจเพราะตอนนั้นตั้งใจทำงานอย่างเดียวเพื่ออนาคต แต่วันหนึ่งก็มีหนุ่มคนหนึ่งขับแท๊กซี่ป้ายดำ รับส่งลูกค้าดอนเมือง เข้ามาเก็บตังค์ที่ออฟฟิตท่าทางเขาดี มีสง่า มีการศึกษา เอก็ทำงานตามปกติ พอเขาพบเอในวันนั้น เขาก็เทียวตามตื้อ พูดจาหวาน หว่านล้อม สาวขึ้นใหม่ หัวใจยังว่าง ไหนเลยจะไม่ไหวหวั่น แลในที่สุดเอก็ใจอ่อน คิดว่าเขาเป็นเทพบุตร ชายในฝัน ทั้งนี้เพราะเอยังไม่เคยมีรัก ไม่เคยมีแฟน ในที่สุด เอก็เสียท่าให้ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนแรก พอคบกันสักพัก พอได้เป็นแฟนกัน เริ่มรู้ตื้นลึกหนาบางกัน จึงรู้ว่า เขามีภรรยาอยู่แล้ว และมีผู้หญิงเป็นกิ๊กอีกหลายคน เขาเป็นคนเจ้าชู้มากๆ แต่ด้วยความปากหวานของเขา เอรักในตัวเขา และเขาบอกว่ารักเอคนเดียวจะเลิกทุกอย่างให้หมด ความรักทำให้เอาตาบอด หูปิด ใจเปิด ไม่ได้คิดว่าตัวถูกหลอก ทั้งที่ทำงานช่วยพี่ๆสาวบาร์มาเยอะ แต่พอมาถึงเรื่องตัวเอง เอเสียท่าชายคนนี้ไม่เป็นท่า ไม่นานการดื่มเหล้าของเขา และเขาไม่ไปทำงาน เสียงาน ไม่นานเขาก็โดนไล่ออก และกลับไปอยู่บ้านเขา หนองบัวลำภู

“เอนะรักเขา” และเอ ก็ฟังเขาพูดเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดที่ถูกออกจากงาน ด้วยรักเอยังติดต่อกับเขาและห่วงใยเขาเช่นเดิม พร้อมทั้งให้เงินเขาใช้ด้วย เพราะอะไร” เพราะรัก และหวัง รวมทั้งเอยังอ่อนวัย” ไม่นาน เอตั้งท้องกับผู้ชายคนนี้ “ เวรกรรมแล้ว “ พ่อแม่พี่น้องเอไม่รู้ เอกลุ้มใจมาก ไม่รู้จะทำไง ก็เลยปรึกษาเขาว่า เออยากจะเลิก และยังไม่อยากมีลูกกับเขา “เอไปทำแท้ง” เพื่อเส้นทางชีวิต เอเข้าใจว่าเป็นบาปครั้งใหญ่ แต่ หากเอเอาไว้ ยิ่งจะบาปหนัก เพราะปัญหาคงตามมามากเป็นขบวนรถไฟแน่ๆ ตอนนั้นเอท้องได้สองอาทิตย์ก็เลยตัดสินใจ ทิ้งปัญหาทุกสิ่งอย่าง และเลิกกับผู้ชายคนนั้น เขาตกงาน ติดเหล้า ทั้งๆที่เขาเคยทำงานมีหน้าตาดี มีบุคลิก การศึกษา เคยทำงานบริษัทมาสด้า เป็นระดับหัวหน้า หากเอกลับไปได้ เอจะไม่ขอมีผู้ชายปากหวาน ขี้โกหกคนนี้เป็นแฟนเด็ดขาด เขาทำชีวิตของเขาเอได้เรียนรู้ความรัก มาพร้อมกับปัญหาต่าง รุมเร้า “จบกันสักทีกับผู้ชายคนนี้”

ตอนที่ 5 ชีวิตก็เหมือนนิยาย รักแรกผ่านไป ต้องมาชดใช้กรรมกับผู้ชายไทยคนที่สองเป็นหนุ่ม กรุงเทพ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ต่างจากคนแรก มีงานการดี ขับแท๊กซี่ป้ายดำ มาเก็บตังที่ออฟฟิตอีกล่ะ พูดจาดี จนเอหลงรักเขาแล้ว ต่อมาเอรู้ว่าเขามีเมียแล้ว แต่เขาบอกว่าเขามีปัญหากำลังจะเลิกกัน และ เขาเลือกที่จะมาอยู่กับเอที่พัทยา ตอนนั้นเอรู้สึกสงสารเขา เขาติดหนี้สินเยอะ เขาทิ้งแฟนเก่าทันทีและมาอยู่กับเอที่พัทยา

หลังมีประสบการณ์การทำงาน โดยเอทำงานที่นี่เป็นเด็กฝึกงาน และทำงานได้สองปี เงินเดือนน้อย ตอนนี้ เอมีแฟนด้วย บริษัทใหม่ มีข้อเสนอดีกว่า รวมทั้งเออยากช่วยแฟนให้มีงานทำเพื่อปลดหนี้ด้วย อยู่บริษัทเก่าเงินเดือนไม่กี่พันบาท คนเราต้องความก้าวหน้าในชีวิต

เอมาทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว รายได้ดีมาก และ ซึ่งแฟนใหม่ของเอ เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เอต้องช่วยเหลือ ป้อนงาน เป็นล่าม รายได้ก็เข้ามาๆๆๆ จนเวลาไม่นานเขาหลุดหนี้ อยู่กันปีกว่า เขาค่อยๆแสดง “ทาสแท้” ออกมาว่า เป็นคนที่ขี้หึงมาก โมโหร้าย พูดคุยกับชายอื่น ถึงแม้จะเป็นลูกค้าก็ไม่ได้ ไปสังสรรค์กับเพื่อนเข้ากลุ่มเฮฮาประสาเพื่อนก็ไม่ได้ ชีวิตของเอ ด้วยวัยเพียง 22 ไม่ต่างจากติดคุก ส่วนเรื่องในชีวิตของเรา เอไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรทั้งนั้น เขาถูกตลอด ไม่เคยผิด เออน้อ!!! ตอนเริ่มต้นใหม่ เอมองไม่เห็นจุดนี้ เพราะคิดว่าเขาผู้ใหญ่เขาแคร์เราดี แต่มาตอนนี้รู้เลยว่าบังคับและกดขี่

“ชีวิตคน เมื่อมีเงินมากขึ้น มีปัญหามากขึ้นตาม “ เขาได้คอมมิชชั่นเป็นแสนๆ จากการเป็นนายหน้าขายที่ เขาได้กลับไปหาผู้หญิงคนเดิมที่กรุงเทพ เอจับได้ จากการเช็คเบอร์โทรศัพท์ และหายไปสองอาทิตย์ เอขอเลิก แต่เขาไม่ยอมเลิก

วันเวลาผ่านไป อารมณ์ โมโหร้ายเขาก็รุนแรงขึ้น จนเอกลัว ว่าสักวันเขาจะทำร้ายเอ เขาไปทำธุระกรุงเทพบ่อย เวลาเอโทรหาไม่รับสาย และจะหงุดหงิด เอสงสัยว่าเขาไปหาผู้หญิงคนเก่า แต่เอก็ไม่ใส่ใจอะไรมา ทำงาน ได้เงินดี และเราก็มีเขา

เป็นอย่างนี้ เรื่อยมา ผ่านไปสี่ปี เอทนไม่ไหว เพราะเวลาไม่สบาย แทนที่เขาจะดูแลเอาใจใส่ แต่กลับไม่ดูแลและบอกให้ไปตายซะ เวลาโมโหยังด่าลามปามไปถึงพ่อแม่เครือญาติ ตอนนี้มันหนักสุดๆ เอตัดสินใจแยกทาง โดยไม่เอาอะไร ทั้งๆที่ของในห้องเป็นของเอทั้งนั้น แต่เอไม่เอาไรเลย เขายอมรับในสิ่งที่เขาผิด และขอโทษ แต่เอไม่ให้อภัย จบกันซะที “ ชีวิตนรก” และเขาก็กลับไปหาเมียคนเก่าของเขา

ตอนที่ 6 ชายคนนั้น การงานเอก้าวหน้า มีชาวต่างชาติมาชอบเยอะ แต่เอช่วงนี้เริ่มกลัวความรัก ยังกลัวว่าจะโดยหลอกอีก เอตัดสินใจ ขอทำงานอย่างเดียว ยังไม่อยากมีครอบครัวให้มีปัญหา งานการก็รุ่ง เงินเข้าเยอะด้วย ชีวิตบุญมีแต่กรรมบัง รู้จักกับ ผู้ชายยุโรปคนหนึ่งทางอินเตอร์เน็ต หน้าตาดี นิสัยดี การงานดี เอติดต่อทางอีเมล สักพัก เขาก็บินมา และเอก็ลองคบดู

คบกันได้ไม่นาน เอก็หลงรักผู้ชายคนนี้

แต่ว่าทำไงล่ะ ชีวิตของเขาถึงยุ่งๆๆๆยังงี้ เขามีลูกกับภรรยาไทย ที่อยู่เยอรมัน ที่ยังไม่หย่าทะเบียน แต่แยกกันอยู่ มีลูกด้วยกันหนึ่งคน และเขาก็มีแฟนคนไทยอีกคนที่อยู่เมืองไทย ที่มีลูกด้วยกันหนึ่งคน บวกกับคนที่อยู่ในท้อง รวมทั้งหมดสามคน แฟนคนไทยเขาตั้งท้องอยู่ นี่แหละหนุ่มหล่อทางอินเตอร์เน็ตของเอ หากเอได้สอบถามตรวจสอบรู้จริงให้เขาเป็นเพื่อนก่อนมาเป็นแฟน คงไม่มีปัญหาปวดกระดองใจยังงี้ เอมารู้ทีหลังแทบเป็นลม แต่เขาบอกเขาเลิกเป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้น แต่เขาก็รับผิดชอบทุกอย่าง ซื้อบ้านให้ ให้ใช้จ่ายรายเดือน เพราะเขามีลูกด้วยกัน แต่เอรับไม่ได้ เอบอกเลิกกับเขา แต่ กรรมลิขิต เราก็เลิกกันไม่ได้ เพราะเอรักผู้ชายคนนี้ ตอนนั้นเอมีรายได้เดือนละหลายหมื่นถึงหลักแสนต่อเดือน ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ใช่ แต่ชีวิตเบื้องหลังเขายุ่งเหยิงมาก เขาบอกเอต้องมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศดู

เอตัดสินใจลาออกจากงาน หลายคนที่ทำงานด้วยกันคัดค้าน แต่เอตัดสินใจแล้ว

ตอนที่ 7 ชีวิตรักในต่างแดน

เอมาอยู่ในบ้านเขา เป็นบ้านที่เขาเคยใช้ชีวิตครอบครัวกับภรรยาเก่าเขา เอมาใช้ชีวิตที่เยอรมัน และดูเหมือนจะมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตกับคนที่เอรัก แต่ว่าแม่ย่าซึ่งอายุมากแล้ว และแม่ย่าเป็นคนที่ติดลูกชายมาก ลูกสาวของเขาเป็นคนฉลาด เรียนเก่งจนจบ และได้งานทำที่ดี แต่ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว ทำให้เอไม่มีความสุขนัก เพราะในนี้มี ทั้งแม่ย่า ทั้งลูกสาวแฟน มีหลายอย่างที่เหมือนง่ายแต่มันเป็นเรื่องยาก เอเรียนภาษาด๊อชย์ คือตอนนั้นเอพูดภาษาเยอรมันไม่ได้เลยเพราะว่าเอพูดแต่ภาษาอังกฤษกับแฟน เอมาอยู่ใหม่ มีครั้งหนึง เอไปเที่ยวอิตาลี่ด้วยกัน กับลูกสาวแฟนกับแม่ย่า แต่แฟนเอไม่แปลภาษาให้เลย เขาพูดหัวเอะกันเอก็ฟังไม่รู้เรื่อง ผ่านไปสี่วันเอแสดงอาการ ว่าเอไม่พอใจ แฟนเอเป็นคนที่รักครอบครัวมาก เขาไม่เข้าใจเอว่าทำไมเอเป็นแบบนี้ เออธิบายให้เขาฟัง เขาว่าเอไม่รักครอบครัวเขา พอกลับจากอิตาลี่ เขาก็หนีไปนอนอีกห้อง ทำให้เอเสียใจมาก เอพยายามอดทน เพราะว่ารักเขา มีปัญหาอีกหลายอย่างในความอิจฉา ริษยา ในครอบครัว ความไม่เข้าใจของแม่ย่าและลูกเลี้ยง ตัวเอแล้ว เอรักแฟนมาก และเอรู้ว่าเขารักครอบครัว เอทำดีกับเขาทุกอย่าง แต่ดูเหมือนเขาจะมองไม่เห็นกันเลย เขาบอกเอมาอยู่นี่ และมาทำไมมาแย่งความรักจากเขาหรือไง

กฎในบ้าน ก็เยอะ การย้ายถิ่นฐาน เข้าไปในบ้านแฟน ขนบธรรมเนียมประเพณีนี้ต่างกัน อาหารการกินก็แตกต่าง กฎระเบียบในบ้านเพื่อให้ปรับตัวเข้าก็เยอะแยะ แม่ย่าไม่ชอบให้พูดเสียงดัง ทำกับข้าวมีกลิ่นก็ว่า อะไรก็ว่า ไปกินข้าวข้างนอกแฟนจ่ายตังให้เอก็ว่า ซื้อเสื้อผ้าให้ก็ว่า เอทนจนแฟนหย่าเสร็จ แล้วเอก็แต่งงาน เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องวีซ่า

ตอนที่ 8 ชีวิตในกรงของแม่ย่า อยู่ไปสักพัก แม่ย่า เอทำอะไรก็ไม่ถูก แม่ย่านั่งในบ้าน ดูทีวีทั้งวัน ไม่ไปไหน เอจะทำงานบ้าน ทำกับข้าวก็ไม่สะดวก รู้สึกอึดอัด แต่ก็อดทน เขาทำเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน ในบ้าน ทั้งๆที่มาอาศัยในบ้านแฟนเอ แต่เขากดขี่ลูกเขาหรือแฟนของเอ ลูกชายก็รักแม่มาก ยอมแม่ทุกอย่าง เขาจะชอบต่อว่าลูกชายต่อหน้าเอ แม่ย่าไม่คิดว่าจะเกรงใจเอเลยสักนิด แต่เอให้เกียรติเขา ไม่เคยว่าแฟนต่อหน้าคนอื่น หรือครอบครัวเขาเลยนะ เอยกย่องสามีในสังคมเสมอ แม่ย่าของเอก็ไม่ธรรมดานะ แม่ย่าจะดูแลจัดการทุกอย่างในบ้าน ทั้งยังมายุ่งถึงห้องนอนของเอด้วย มายุ่งกับรายละเอียดในห้องนอนเอด้วยนะ แม่ย่า เอารูปลูกสาวของแฟนมาติดเต็มในห้อง เอบอกไม่ชอบให้แฟนเอาออก ก็ไม่เอาออกสักทีจนเป็นปี “เราแต่งงานกัน” ครอบครัวเขาที่จริงก็ไม่มีคนเห็นด้วย เพราะแฟนเอมีทรัพย์สินที่นี้ เขาก็คงกลัวว่าเอจะมามีส่วนแบ่ง แต่เอไม่ได้คิดงั้น มีเลือกเขา เพราะรักที่ตัวเขา เขาเป็นคนจิตใจดี ไม่ใช่ที่เงิน เพราะคนที่มาชอบเอ รวยกว่าเขา เอก็ไม่เลือก เพราะมันไม่ใช่ความรัก พอแต่งงานปุ๊บ !!!! อะฮ่า!!!!! ได้ใจเอเลยละตอนนี้ เอใช้สิทธิ์ เมียเต็มที่เลย เอรื้อทิ้งหมดเลยค้า เอบอกว่า ห้องเอก็ต้องเอารูปเอมาติด ทำไมห้องลูกเขาไม่เอารูปเอไปติดบ้างล่ะ หากเอเอาไปติด แล้วคุณลูกจะชอบไหม ถึงเวลาแล้ว ลูกสะใภ้ประท้วงค่ะ อะไรที่แม่ย่าบ่นๆ กฎอะไรที่แม่ย่าเคยมี เอไม่สน เอเป็นเมียและเอจะทำ เพราะเอถูกกดดันมานาน!!! กับข้าวเหม็นหรอ ทีนี้แกงอาหารอิสาน ทุกวัน ใส่ปลาร้า ชะอม คั่วพริก ทำแบบนี้ล่ะ แปลกนะ ฝรั่งเค้าชอบเอากฎหมายมาพูดในครอบครัว แต่ก่อนเอยังไม่แต่งงานก็ไม่กล้าพูดมีปากเสียงมาก เพราะเขาจะพูดว่า เอเป็นแค่แฟน ไม่ใช่ภรรยา ไม่มีสิทธิ์โน่นนี่ แต่พอแต่งงานจดทะเบียนปุ๊บเค้าก็จะมีเกรงใจบ้าง

ตอนที่ 9 บุญมีแต่มีกรรม

“เอ ก็ท้อใจหลายครั้ง “ ไม่อยากอยู่กับครอบครัวแฟน เพราะมีปัญหาที่ทำให้เอเสียความรู้สึกที่ดีบ่อยๆ แม่ย่าเคยพูด ว่าเอไม่ใช่คนในครอบครัวเขา เอให้อภัย โดยการให้แฟนอธิบายให้แม่ย่าฟัง แต่ก็ไม่เป็นผล แม่ย่ายังยืนยันตามนั้น แม่ย่าว่า เอไม่มีลูก แม่ย่าอยากได้หลาน แต่ว่า แฟนเอก็มีลูกตั้งสามคนแล้ว ภาระเยอะมากพอแล้ว

เอ พยายาม ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำงานบ้าน ทำกับข้าว ทำสวน ทำงานข้างนอกด้วย ทำทุกอย่าง แต่เอไม่ชอบเวลามีวันหยุดและเขาจะมารวมตัวกัน อาจจะเป็นที่เอมีเรื่องที่ทำให้เสียความรู้สึกอยู่บ่อยๆ “ลูกสาวแฟนเป็นคนทำงานดีมาก มีหน้าตาในสังคม” อะไรๆก็ดีหมด คนในบ้านภูมิใจในตัวลูกสาวมาก แต่คุณๆ แต่หารู้ไม่เวลามาบ้านแล้วลูกสาวสุดภูมิใจ สลัดร่างที่ทำงานดีเรียบร้อยนั้นออกหมด ลูกสาวจะเป็นคนเลอะละ คนเลอะเทอะ มีข้าวของอะไรก็วางมั่วไปหมด เธอวางของตามใจฉัน ทำกับข้าว ถ้วยจาน มีดจาน ชาม หม้อ คุณเขาวางระเกะระกะไปหมด และก็ไม่เก็บล้าง ทิ้งไว้งั้นล่ะค่ะ ของส่วนตัวของลูกสาวก็จะกระจัดกระจายทั่วในห้องรับแขก ห้องส่วนตัวก็มี ทำไม เธอไม่เอาเข้าไปเก็บ และทั้งพ่อ ทั้งย่า ก็ไม่บอกให้เอาไปเก็บด้วย นี่แหละนะ การเลี้ยงดูแบบฝรั่ง ดูจะรู้แต่รักแต่ไม่รู้จักบอกจักสอน เอเห็นแล้วหดหู่เพราะว่า เอเป็นคนดูแลความสะอาดในบ้านคนเดียว และเอจะไปว่าเขาก็ไม่ได้นะคะ หากเอพูดนิดๆหน่อยๆ เป็นผิดผี ผิดใจแม่ย่าอีกค่ะ เป็นลูกสะใภ้อย่าง เอในครอบครัวสามี มีแม่ย่าและลูกเลี้ยงอยู่ด้วยกันจะต้องอดทน

“เออน้อ!!!! นี่หนอชีวิตที่แสนรันทด “ บุญมีสามีดีสามีรัก แต่กรรมบังแท้ๆเพราะไม่ค่อยจะลงรอยกับแม่ย่า ได้แฟนนิสัยดีแต่ชีวิตครอบครัวเราทำไมยุ่งเหยิงจัง

ตอนที่ 10 การเรียน การทำงาน

ทุกคนมาอยู่ต่างแดน ต้องเรียนภาษาเขา หากเป็นภาษาอังกฤษคงจะเรียนต่อยอดและง่ายหน่อย แต่แฟนของเอเป็นคนเยอรมัน เอก็ต้องเรียนภาษาเยอรมัน พดได้ เขียนได้ สื่อสารได้ จึงจะมีชีวิตในต่างแดนและมีงานทำ เอ เรียนภาษาเยอรมันด้วยความขยัน ต้องฟังให้รู้เรื่อง เขาจะได้ไม่ดูถูกเอ

เอเรียนจบ ในระดับกลาง หลังจากนั้นเอก็เรียนเพื่อสอบใบขับขี่ต่อเพราะการไปมาของเอจะได้สะดวก และคนขยันอย่างเอก็สอบผ่านทุกอย่าง และได้ทำคะแนนดีด้วย จนเขายอมรับว่าเอทำได้ ทำอะไรจะสำเร็จได้ ต้องมีความตั้งใจที่จะทำ ต้องบวกกับความขยันฝึกซ้อม แล้วเราจึงจะทำได้สำเร็จ

ครอบครัวของสามีเป็นครอบครัวมีเงิน มีฐานะ แต่เอไม่ได้ อยู่ที่บ้านตลอด สามีก็ให้เงินใช้ปกติ เอต้องไปหางานทำเพราะหากอยู่ตลอดคงจะเครียดแน่ๆ แฟนก็ไม่อยากให้เอทำงาน เอบอกกับแฟนว่า” ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันอยากทำบ้าง ฉันทำงานข้างนอกก็เหนื่อยนะ แต่ฉันอยากทำ” คือเอทำงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง จันทร์ ถึงศุกร์ หลังเลิกงานก็ต้องทำงานบ้าน ทำกับข้าวและอื่นๆ คือที่จริงแฟนเอไม่ค่อยอยากให้ไปทำงานข้างนอกเท่าไร แต่ว่าถ้าอยู่บ้านก็คงมีปัญหาเรื่องในบ้านที่ไม่ลงตัวทะเลาะกันกับแม่ย่าแน่นอนค่ะ

จึงเลือกที่จะไปทำงานทุกวัน บางทีวันเสาร์ก็ทำ แฟนก็บ่นว่าเอทำงานนอกเยอะเกิน แต่เอก็ไม่สนใจเพราะว่าทำไงได้ล่ะ เงื่อนไขที่เอเสนอให้ อยากจะแยกที่อยู่กันสองคนมันยังเป็นไปไม่ได้ เธอก็ต้องยอมรับตรงนั้น ถ้าเลือกได้เออยากทำงานทุกวันด้วยซ้ำ ไม่อยากมีวันหยุด เพราะกฎและระบบครอบครัวของแฟนและยังต้องอยู่กับแม่ย่าตลอดเวลาที่ไม่ได้ทำงานอีก “เฮอ!!!!!”

ตอนที่ 11 มาดามแจ๋วๆ

ชีวิตเมืองนอกที่หลายคนไฝ่ฝัน ไม่ใช่จะสบายนะคะ “ยิ่งกว่าแจ๋ว ในละครช่องสามอีกน่ะค่ะ” ชีวิตเอจากที่ไม่เคยทำงานบ้านมาหลายปี มาอยู่นี่ต้องมาเรียนรู้ทุกอย่าง กับข้าวฝรั่งทำไม่เป็นก็ต้องเรียนในเน็ต เพราะแฟนเป็นคนเน้นกับข้าวทำเอง ไม่ชอบแบบสำเร็จ และทำเค้กหลายๆอย่างก็ต้องหัด เอาง่ายๆ ทำทุกอย่างน่ะค่ะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ขอใช้คำว่าแฟน ไม่อยากใช้คำว่าภรรยาเลยล่ะค่ะ เอไม่มีลูกกับแฟนด้วยล่ะมั้งถึงไม่มีความอดทนเท่ากับคนมีลูก ปัญหาความลำบากใจที่เกิดขึ้นเล็กๆน้อยๆประจำในบ้านทำให้ เอเอ่ยปากหลายครั้ง กับสามี ว่าเออยากกลับเมืองไทย อยู่ไทยอยากทำอะไรก็ได้ ทำ งานการก็ไม่ลำบาก มีอิสระในชีวิต แต่แฟนเอก็ตีหน้าเศร้าทุกครั้ง จนเอสงสารทุกครั้ง เพราะเอรักเขามาก แต่บางครั้งการที่เราทำเพื่อคนอื่นมากๆ เพราะรัก เพราะแคร์ เพราะครอบครัว เพราะคนรัก มันทำให้ ความสุขของตัวเองหายไปหมด “มันก็เป็นอะไรที่แย่มากๆๆนะ “

แฟนเอบอก ฉันขาดเธอไม่ได้ “มันตลกนะ!!” เพราะสมัยก่อนเวลาเที่ยวก็มีเวลาให้กันสองคน แต่ตั้งแต่มาอยู่เยอรมัน ไม่เคยมีเวลาให้กันสองคน ไปเที่ยวก็ต้องมีครอบครัวไปด้วย และแฟนเอก็ต้องเเทคแคร์ครอบครัว แม้แต่จะคุยกับเอยังไม่มีเวลาเลย เอาง่ายๆ แม้แต่ไปฮันนี่มูนหลังแต่งงานก็ยังเอาครอบครัวเขาไปด้วย แถมเช่าบ้านอยู่หลังเดียวกันอีกต่างหาก น่าตลกไหมนี่แหละฮันนี่มูนของเอกับแม่ย่าและลูกเลี้ยงมากกว่า ฮันนี่มูนกับแฟน

เอกลับเมืองไทยหลายครั้ง เวลากลับก็ไม่คิดอยากจะกลับมาเยอรมัน เพราะว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากจริงๆ สุภาษิตนี้ยังใข้ได้อยู่ถึงปัจจุบัน แต่เอจำเป็นต้องอยู่เพราะเอารักแฟน

ตอนที่ 12 สถาณการณ์รักและชีวิต แฟนเอบอกว่าเอเปลี่ยนไป เอบอก สถานการณ์บ้านเธอทำให้ฉันเปลี่ยนไปอัตโนมัติ ฉันพยายามทำดีกับครอบครัวเธอ ฉันว่ามันไม่ได้ผล และฉันอยากแยกกันอยู่กับครอบครัวเธอได้ไหม แฟนเอเป็นคนเกรงใจครอบครัว แต่เขาหารู้ไม่ สิ่งที่เขาไม่ ทำในสิ่งที่เอขอสักที มันอาจเป็นโรคร้ายที่มาทำลายชีวิตความรักที่สะสมมาเกือบสิบปีก็เป็นได้ ถ้าวันนั้นมาถึง มันจะสายเกินไป และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ ถึงแม้เอมองเห็นอนาคตอยู่ข้างหน้า คือว่าสักวันหนึ่งเอจะสบาย เพราะว่าแฟนเอมีฐานะมั่นคง แต่ไม่รู้ว่าเอจะยอมสละสิ่งนั้น เพื่อแลกกับสิ่งที่ตัวเองต้องการ คืออยากทำในสิ่งที่ตัวเอง ต้องการ ไม่ต้องเกรงใจใคร เอคิดถึงอิสระ ที่เอเคยมีหลายปีก่อนที่จะมาอยู่เยอรมัน เพราะว่าเป็นชีวิตที่สบายอยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องขึ้นอยู่กับใครทั้งสิ้น ชีวิตครอบครัว ถ้าไม่มีมือที่สามที่สี่ มันก็อาจจะไม่มีปัญหา แต่บางครั้ง มันก็ทำให้เอเหนื่อยใจมากๆ มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เสียสละชีวิตที่แสนจะสบาย เอาใจแฟนไม่เท่าไร ต้องมาเอาใจทุกคนที่อยู่ในครอบครัวแฟน นั่นสิ มันคือปัญหาของ สาวเคยโสดและเคยอยู่คนเดียวหลายปี ชีวิตก็ต้องเดินตามลิขิตต่อไป แล้วแต่เวรกรรมล่ะทีนี้ ตอนนี้ก็เกือบจะสี่ปีผ่านไปแล้วนะ ตอนนี้ก็แล้วแต่โชคชะตา “แปลกนะ!!!” สมัยเป็นเด็กอยู่บ้านหลังเล็กๆ กับครอบครัวมีความสุขมาก แต่มาอยู่นี่ ถึงบ้านจะหลังใหญ่กว่าเดิมเป็นหลายเท่า แต่ว่าบางครั้งเอ รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เอใฝ่ฝัน อยากมีครอบครัว มี พ่อแม่ และลูก อยู่ด้วยกัน บ้านหลังเล็กๆ จะทำอะไรก็ได้ โดยที่ไม่ต้องไกล่เกลี่ยกับใคร เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ สมัยที่เอทำงานที่เมืองไทย มีเงินสะสม เอก็จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ดังนั้นถ้าสักวันนึง เอ หมดความอดทน เอกลับไปอยู่เมืองไทย ก็อยู่ได้ แฟนของเอก็รู้ดี เอก็เคยพูด เขาก็จะกลัวมากๆ เขามีบ้านสองหลัง กำลังประกาศขายหลังหนึ่ง เพื่อที่จะเอาเงินส่วนหนึ่งมาเคลียร์ปัญหาที่เอขอ แต่ว่าจะถึงวันนั้น เอจะทนไหวไหมน้อ เพื่อนๆเป็นกำลังใจให้เอด้วยนะคะ


 
 
 

Comments


คลิกดูเรื่องน่าอ่าน
Tag Cloud

ขออภัยกำลังอยู่ใน

ขั้นตอนทำเวปเพจคะ

 ThaiMadam's story

© 2014 by The Book of  Lover "Thai madamstory" Proudly created with Wix.com

  • Facebook B&W
  • Twitter B&W
  • Google+ B&W
bottom of page