top of page

บ่วงรัก เรื่องราวของแม่ที่พลัดพรากจากลูกน้อยด้วยเหตุที่รักหน่าย จนเธอไม่สามารถติดต่อกับลูกได้ วันเวล

  • Niranaam @NL
  • Apr 10, 2015
  • 7 min read

บ่วงรัก

ตอนที่ 1 นวล

นวลสาวสวยวัย รุ่น ที่”สวยมาก”คนหนึ่งครอบครัวของเธอฐานะปานกลางในพื้นที่ภาคกลางไม่ไกลจากกรุงเทพ

ด้วยความสาวความสวยตั้งแต่วัยเริ่มจะสาว และมีมากกว่าเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน

จึงทำให้ ชัย หนุ่ม 20 กว่า ปากหวานรูปมาจีบและเธอมี ”สามี” ตั้งแต่นวลมีคำนำหน้าว่า “นางสาว” ได้ไม่นานโดยที่เธอไม่ฟังเสียงทัดทานของใคร เพราะ ”รักล้นใจ” และวัยเยาว์ วัยอยากรู้ ที่ไม่สนใจคำผู้ใหญ่ เลยพลาดท่าได้รักไม่ได้เรียน และด้วยการที่เป็นวัยแรกรุ่น ความฝันจึงบรรเจิด มีความฝัน พร้อมทั้งวิ่งตามฝัน แต่นวลไม่รู้ว่าฝันไปตามหนุ่มนั้นเธอจะได้เป็นจริงหารือไม่ ทุกอย่างไม่รู้จะเป็นไปตามฝันหรือไม่ นวลยังไม่รู้

วัยรุ่นวัยรัก ทั้งสองคนเมื่ออยู่ด้วยกัน การสร้างครอบครัวใหม่ไม่ได้ง่ายเลย

ดังนั้น ทั้งสองจึงตัดสินใจไปทำงานที่ กรุงเทพแดนที่หางานได้ง่าย และสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยอิสระ เป็นตัวของตัวเอง “เป็นผู้ใหญ่”

โดยที่ไม่มี พ่อแม่พี่น้องหรือผู้ใหญ่ คอยบังคับ หรือชี้แนะใดๆ ซึ่งตอนนั้น ชัยและนวลต่างคิดว่า เขาทั้งสองเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ไม่จำเป็นต้องมาบอก รักสามารถนำชีวิตได้ และคว้าหาอนาคต และที่นั้นคือ กรุงเทพแดนศรีวิไลว์

ชีวิตครอบครัววัยรุ่น บางครั้งก็หวาน บางครั้งก็ขม

และที่สำคัญอีกเช่นกัน

งาน เงิน งานนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก เป็นวัยรุ่น ไม่มีประสบการณ์ทั้งด้านการเรียน และ การทำงาน นวลจึงเป็นแรงงาน ที่มีค่าจ้างขั้นต่ำเท่านั้น ส่วนชัยนั้นถึงพื้นเพเดิมพอมีกินแต่การมีเมีย ครอบครัวก็ไม่ได้สนับสนุนใด

อยู่มาไม่นาน นวลได้ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรเป็นหญิง

“แพรว”

น่าตาน่ารักน่าชัง มีแววจะสวยได้แม่จริงๆ

ตอนที่ 2 กรุงเทพแดนสวรรค์

การเริ่มต้นชีวิตใหม่ใน กรุงเทพไม่ได้ง่ายนัก ทั้งสองต้องไปทำมาหากินเอง ชัยทำงานอีกที่หนึ่ง เกี่ยงกับการก่อสร้าง แต่นวลทำงานในกรุงเทพ

หลังจากมีน้องแพรวได้ระยะหนึ่ง สภาพครอบครัว การทำมาหากินไม่คล่อง นวล จึงนำลูกแพรว ไปให้ตายายช่วยเลี้ยง

เพื่อเธอและสามีจะได้ ทำงานได้เต็มที่ ส่งเงินไปให้พ่อแม่เลี้ยงลูกให้และทั้งสองเทียวไปเยี่ยมลูกรักตามที่มีเวลาว่างจากการทำงาน ไปพร้อมกันบ้าง สลับกันไปบ้างแล้วแต่วาระและโอกาส

ช่วงนี้ต่างคนต่างทำงาน ชัยมีงานบางครั้งได้กลับบ้านบางครั้งชัยไม่กลับบ้านเพราะมีงานยุ่งมาก

และทั้งสองพยายามสร้างครอบครัว

ซึ่งชัยมีสังคมในงาน ต่างจากสังคมของนวลบ้าง และมีคนโทรเข้าและชัยต้องรีบไปทำงานข้างนอก เหตุนี้จึงทำให้ไม่เข้าใจกันบ้าง

แพรวโตขึ้น อายุได้ 2 ปี โดยมีตายายเลี้ยง เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ด้วยความรักลูก นวลจึงคิดว่าหากนำแพรวมาอยู่ ด้วยที่กรุงเทพ ซึ่งน่าจะดี

“ แม่ลูกจะได้ไกลชิดกัน “ ดังนั้น นวลและลูกแพรวจึงมาอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าเล็กๆใน กรุงเทพ

ช่วงนี้นวลอายุ 18- 19 ปี ชัยก็อายุแตกต่างกัน 4-5 ปี เขาทั้งสองเช่าห้องเล็กๆอยู่ ไม่ไกลจากที่ทำงานของนวล และนวลมีลูกสาวจอมซน มาอยู่ด้วย

แพรวอายุ สองขวบกว่าๆ เด็กที่เคยอยู่ในที่กว้าง และมาอยู่ในที่แคบๆแปลกที่ด้วย และไม่เคยอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เล็กก็กระจองอแงบ้างเป็นเรื่องปกติ

ทำให้ทุกอย่างยุ่งยาก เรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องกินเรื่องอยู่ สารพัด สับสนอลหม่าน ทำให้นวลเลิกทำงานมาดูแลลูก และมีชัยเท่านั้น หาเงินคนเดียวเลี้ยงคนสามคน จึงทำให้ชัยทำงานหนักและบางครั้งเขาไปทำงานต่างจังหวัดหลายวันคงมีเพียงนวลเท่านนั้นดูแลแพรว

การงาน การเงินไม่ดี จึงทำให้ทะเลาะกันบ่อยขึ้น ความสุขในชีวิตครอบครัวเริ่มหายไป

และสิ่งที่นวลได้ยินมาอีกเรื่องหนึ่งที่นวลไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เมื่อครั้งที่นวลพาลูกไปเยี่ยมย่า มีเพื่อนบ้านมาเล่นกับลูก และถามว่าแพรวเป็นลูกใคร

“ลูกแพรวเป็นลูกของชัย” นวลบอกเพื่อนบ้าน

และเธอได้ยินว่าเธอเป็นเมียคนที่สองหรือ เมียน้อยเหรอ

“ฮา! อะไรนะ นวลนะเหรอเป็นเมียน้อย”

ตอนที่ 3 ถุยชีวิต

หลังจากนั้นกลับมาห้องเช่า นวลได้มาสอบถามสามีเหตุเป็นไง ทำไมเพื่อนบ้านจึงบอกว่านวลเป็นเมียน้อย

เหตุนี้ใช่ไหมจึงไม่พาไปเยี่ยมแม่

“เหตุนี้ใช่ไหมที่แม่ย่าไม่ปลื้มนวล ฮ๊า!!!” เธอตระโกนใส่หน้า “ผัว”

เขารับว่า

“เอ้อ กูมีเมียจริง กูมีมาก่อนมีมึงอีก”

ชัยบอกนวล ว่ามีเมียแล้วเป็นเมียที่แม่รับรู้ว่าเป็นสะใภ้ ทั้งมีลูกด้วยกันอีกสองคน และการมาอยู่กับนวลเพราะบอกเมียจริงว่ามาทำงาน และการไปต่างจังหวัดของเขาคือไปอยู่กับเมียจริง และเขามีลูกสองคนกับเมียจริงอีกด้วย

“กรี๊ด!!!!!!!!!!”

”ผัวของนวล ที่เป็นผัวของชาวบ้านด้วย”

ไม่ใช่นวลไม่รู้ว่าสามีตัวเป็นคนปากหวานมีเสน่ห์ แต่ไม่คิดว่าเขาจะไปมีคนใหม่ ถึงแม่ว่าจะทะเลาะกันบ้าง แต่ทั้งสองเป็นผัวเมียกันและมีลูกด้วยกันแล้ว นวลไม่คิดเลยว่าผัวตัวจะมีเมียอยู่แล้ว

“โอ้ย!!!!”

หรือจะเรียกตำแหน่งของนวลที่เป็นเมียธรรมดาปกติ ว่า

”เมียน้อย” หรือ”เมียเก็บ”หรือ”ผู้ช่วยเมียหลวง”

ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่หญิงใดปรารถนา ทำไมชะตาสาวสวยอย่างนวลจึงเป็นอย่างนี้ และนวลจะทำยังไง

“นวลมีลูกด้วย “

หลังจากนั้น”ผัวและนวลเมียน้อย” มีเรื่องพูดไม่เข้าหูกันบ่อย ทะเลาะกันบ่อยมากขึ้น

มีการโต้เถียงกัน บ่อยๆๆ และบ่อยมากขึ้น ถี่ขึ้น ร้องตะโกนใส่กันมากขึ้น พูดกระแทก โยนของใส่กันมากขึ้น

วันนี้มีการทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้น

”ผัวเมียตบตีกัน “ ขั้นลงไม้ลงมือ ไม่ธรรมดา ตามประสาสาววัยรุ่นอารมณ์ร้อน

กรี๊ด!!! สุดๆ ผัวตี ตระโกนสุดๆๆ เมียตีผัวและผัวตีเมีย

“เผาะแผะๆๆๆๆ กริ๊ด โผ๊ะๆๆๆมึง กู กริ๊ด ผั๊วะ!!!!”

ตอนที่ 4 หน่ายรัก

“โผ๊ะ โอ้ย ผั๊วะ ๆๆๆ”

คนที่เจ็บปางตายคือ “นวล”เพราะเธอถูกชัยทั้ง ตบ ตี ต่อย หน้าบวมเขียวช้ำ หูฉีกขาดด้วย ข้าวของระเนระนาด เจ็บปางตาย

ไอ้ผัวไม่ดูดำดูดี กระทืบซ้ำ และเก็บเสื้อผ้าลูกยัดใส่กระเป๋าและพาลูกจากไป จนเธอนอนซมน้ำตาซึม เดียวดายอยู่ในห้องเช่า เธออายชาวบ้านมาก ที่ถูกผัวตบตีจนหน้าบวมซ้ำปูดปากเป็นงวง เธอไม่คิดที่จะไปหาหมอเพราะอาย นอนหยอดเข้าต้มให้ตัวเอง และเธอไม่ได้ออกจากห้อง น้ำตาไหลริน นอนซม ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหนื่อยจนหลับไป ตื่นขึ้นมาก็คิดถึงลูก นวลนั่งหน้าเตา เอาเสื้อลูกมานึ่งให้อุ่นและเอามาประคบหน้า และคิดถึงลูก หลังถูกทำร้ายสี่ห้าวันบาดแผลทีเกิดก็ดีขึ้น น้ำตาไหลรินพร้อมประคบตัวเอง เอากระจกมาส่อง ประคบไป เห็นภาพตัวเอง

ไม่ใช่นวลคนสวยตาคมผมยาวคนเดิม

แต่เป็นนังนวล ผมกระเชิง ผีตาปูด หน้าซ้ำปากบวม

“ ฮือๆๆๆๆ ยังไม่รู้ว่าลูกแพรวไปอยู่ไหนอีก”

“ ฮือๆๆๆ” แล้วไอ้ชัยมันจะเอาลูกแพรวไปไหน ในเมื่อมันมีเมีย มันคงงไม่เอาไปให้เมียมันคงเอาไปบ้านแม่มันแหละ นวลคิด หลังประคบ 2-3 วัน แผลเริ่มแห้ง ปากเป็นงวงซะมดเริ่มลดลง ตาบวมแก้มซ้ำเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนชัยได้หอบลูกหนีไป และนวลคิดว่าชัยไม่เคยดูแลลูกนาน ลูกยังเล็กคงทำอะไรมากไม่ได้แน่ๆ คาดว่าคงจะพาไปให้แม่ของชัยให้แม่ย่าที่อยู่ชานกรุงเทพเลี้ยง

ตอนที่ 5 ลูกจ๋าแม่มาแล้ว

หลังอาการเจ็บปางตายของนวลดีขึ้น แผลแห้ง รอยบวมลดลง นวลจึงถ่อสังขาร ที่ยังหน้าเขียวมีรอยช้ำ ไปตามหาลูกที่บ้านแม่ของชัยด้วยความคิดถึง และความหวังว่าจะได้เจอลูกอันเป็นดวงใจของนวล

นวลใช้ผ้าพันคอบางคุมผม พันปิดไว้

เมื่อไปถึง นวลบอกแม่ย่าว่า

แม่คะแพรวอยู่นี่ไหม หนูมาขอลูกหนูคืนคะ

แต่แม่ของชัยไม่ยินดีต้อนรับนวลเลย

“เธอมาทำไม เธอเป็นคนไม่ดีฉันไม่ชอบ และแพรวไม่ได้อยู่ที่นี่”

แต่นวลเหลือบไปเห็นรองเท้าของลูกแพรวอยู่ที่ประตูเข้าบ้านเอจึงมั่นใจว่า

”ลูกแพรวอยู่ในนั้น นั่นไงรองเท้าของลูกแพรว“

แม่ย่าผู้ไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้มาก่อน แสดงท่าที ไม่ชอบมากขึ้น แม่ย่า ไม่ให้นวลพบลูกแพรวเลย นวลพยายามขอพบลูก ทั้งไหว้ทั้งกราบแม่ย่า ขอพบลูกแพรว เพราะเธอคือหัวใจของนวลและเป็นชีวิตของนวลด้วย

“แม่สงสารหนูเถอะ แม่ก็รักลูก หนูก็รักลูกหนูเหมือนกัน”

นวลทั้งพูดทั้งร้องไห้

ในที่สุดแม่ของชัยบอกว่า

”ใช่ หลานแพรวอยู่ในบ้าน แต่ฉันไม่ให้พบ “

ดุว่า ด่า นวลสารพัด ว่านวลไม่เหมาะที่เป็นแม่คน

“ไปซะให้ไกลๆ ฉันจะเลี้ยงหลานฉันเอง”

และปิดประตูใส่หน้า นวลร้องไห้เกาะประตูขอพบลูกอยู่นาน

แต่การยืนเกาะประตู ขอร้องวิงวอนนั้น ไม่มีใครสนใจหรือเห็นใจนวลเลย มีแต่ชาวบ้านเดินผ่านมองๆและเดินหลบออกห่าง

ชาวบ้านคงคิดว่านวลบ้า หน้าช้ำ ผมกระเซิง

คงไม่มีใครคิดว่าเธอโชคร้ายลูกอันเป็นสุดที่รักถูกลักพาตัวไป

นวลลกลับไปด้วยความเจ็บปวด ร้าวในหัวใจ ไหนจะเจ็บตัวมาแล้ว ไหนจะไม่ได้พบลูก สาวอายุ 18-19 ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีหนทางใดๆจะทำได้ มากกว่าไปตั้งหลักที่ห้องเช่า รูหนูเดิมที่กรุงเทพ

ตอนที่ 6 แม่ผู้ บอบซ้ำ

นวล นอนขดตัว ซึมเศร้า โศรก คนเดียวในห้องอย่างเดียวดายและไร้หวัง ไม่มีหนทาง ไม่มีอนาคต

ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีลูก ไม่มีผัว เจ็บร้าวในดวงจิต ของแม่ผู้ไม่มีลูกอยู่ในอ้อมกอด

“โคตรท้อ ท้อจริงๆ”

บางวันเธอได้ออกจากห้องเช่า และแอบไปดูลูกทีบ้านแม่ของชัย แต่เธอไม่เคยพบแม้แต่เงาของลูกแพรวเลย หมดหนทาง ไม่มีเพื่อน ไม่มีที่ปรึกษา ไม่มีหนทาง มีดมน คิด คิด คิด พร้อม

“น้ำตา แห่งการสูญสลายและสูญสิ้นความรักความหวัง “ เท่านั้นเป็นเพื่อน

กองทุกข์ทับถมล้นในหัวใจทำให้นวลไม่รู้จักกลางวันกลางคืน นอนซุกอยู่ในห้อง หาอาหารการกินแทบกลืนไม่ลง เธอกินเอาแค่พอประทังชีวิต

เธอคิดแต่ลูกแพรวๆๆๆ ลูกอันเป็นดวงใจของแม่และไอ้ชัย ผัวที่หลอกให้เธอเป็นเมียน้อยเมียเก็บและพอเธอรู้เขาก็มาที่ตบตีเธอเพื่อเลิกรา

“ตอนที่มันยังไม่ได้เป็นสามี

มันพูดอ่อนหวาน เอานั่นมาให้เอานี่มาล่อ

พอมันได้ล่อเราแล้วมันก็อยากเลิก

เพราะมันอยากล่อของลับในแต่ที่ลับๆ”

“นี่แหละผู้ชายที่เคยรัก”

ทั้งแค้นทั้งเจ็บทั้งกลัวสารพัด แต่คำว่ารักที่เคยมีให้นั้นมันหายไป

ลูกสาวกำลังน่ารักถูกลักพาไปโดยพ่อของลูก

นวลเองไม่มี งานทำ นอนจมกับความโศรก ท้อแท้ อ่อนกำลัง

“ฮือๆๆ”

เงินที่มีอยู่น้อยนิดกำลังจะหมดลง

“ฮือๆๆ”

แล้วนวลจะทำอะไรได้นอกจากคิด คิดถึงลูกอันเป็นสุดที่รัก ลูกที่กำลังน่ารัก นอนคิดกลับไปกลับมา

”ลูกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

หลังจากวันเวลาผ่านไปเป็นเดือน ในที่สุดนวลก็คิดได้

“ลูกถูกลักพาไปโดยพ่อของลูก”

“หากพ่อมันไม่รักลูกมัน มันคงไม่เอาไป”

“ คุณเอาลูกไปได้ คุณก็ต้องเลี้ยงลูกคุณได้ ฉันต้องตัดใจ ” นวลคิดทบทวน

สิ่งสุดท้ายที่นวลคิดได้คือ การไปทำบุญที่วัด ขอพรให้ลูกสาวที่หายไป ให้มีชีวิตรุ่งเรืองปลอดภัย

”สาธุ แม่ขอทำบุญและขอพรให้พระคุ้มครองลูกแพรวของแม่ แม่จะไม่หยุดในการตามหาลูก

หากแม่ได้ดี แม่จะไปรับลูกมาอยู่ในอ้อมกอดของแม่ รอแม่นะลูก”

ตอนที่ 7 ที่พึ่งยามทุกข์

ในที่สุดความอบอุ่น และที่พึ่งยามทุกข์ ยามจนที่นวลคิดได้คือ

”บ้าน” ที่มีพ่อแม่ พี่น้องอยู่ นั่นคือที่พึ่งที่อาศัยในการพักฟื้นสติและจิตอันบอบช้ำของเธอ

เมื่อนวลกลับไปและเล่าให้แม่ฟัง ยายของแพรวฟัง

ยายร้องไห้ฟูมฟาย ถึงหลานรักที่เธอเลี้ยงมากับมือ และพูดว่า

“หลานของฉัน ฉันเลี้ยงมันมาจนโต ทำไมเธอให้เอาแพรวไป เอาไปทำไมๆๆ เอากลับมาฉันจะเลี้ยงเอง “

นวลได้เห็นการร้องไห้ฟูมฟายเสียใจของแม่ และได้ยินที่แม่พูดยิ่งในเรื่องการดูแลเลี้ยงดู รัก ห่วงใย ห่วงหา ยิ่งทำให้นวลเสียใจมากขึ้น

“นวลไม่ได้ให้เขาไปจ๊ะแม่ แต่พ่อมันลักเอาลูกแพรวไป นวลพยายามหามาตลอดเดือน แต่นวลหาไม่พบ จึงกลับมาบอกแม่ นวลรู้ว่าแม่รักแพรวมาก หนูก็รักแพรวมากๆ “

ทั้งยายทั้งแม่ของแพรว กอดกันร้องไห้ระงม มีน้าค่อยปลอบใจ

“ลูกแพรวของแม่จะรู้ไหมว่าใครๆก็รักเธอลูก” นวลคิด

นวลเห็นตามที่แม่พูดที่ว่าเอาลูกให้เขาและนวลคิดตำหนิตัวเองหากนวลไม่เอาลูกไปเลี้ยงที่ กรุงเทพ ถึงตอนนี้แพรวก็ยังอยู่กับยายและอยู่อย่างมีความสุขด้วย

นวลนอนร้องไห้ที่บ้านเกิด ทั้งคิดถึงลูก ทั้งเหงาทั้งโศรก และชาวบ้านก็มาถามทุกวัน ถามข่าวด้วยความห่วงใย อยากรู้อยากเห็น อยากๆๆๆๆๆของชาวบ้านที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของนวลตลอดทั้งเดือน

ทำให้นวลก็คิดได้

“ชีวิตต้องมีการตั้งต้น” ต้องมีการเริ่มใหม่ นวลเดินทางเข้ากรุงเทพและหางานทำ

นวลทำงานที่ กรุงเทพ 5-6 ปี เงินที่ได้ นวลแบ่งอยู่แบ่งกินแบ่งใช้และขาดไม่ได้ คือ ส่งเงินให้พ่อแม่ไม่เคยขาด เพราะพ่อแม่คือผู้มีพระคุณและเป็นที่พึ่งยามสุขยามทุกข์จริงๆ

โดยที่ช่วงนี้นวลใช้ชีวิตปกติ เข็ดในเรื่องความรัก หูและตาได้สอดส่องหาข่าวของลูกเช่นกัน แต่ไม่ได้ยินข่าวและเธอไม่เคยพบลูกแพรวเลย

ตอนที่ 9 วันที่ฟ้าเปิด

และวันที่นวลดีใจสุดๆก็มาถึง

วันนี้มีโทรศัพท์จากน้องสาว

“พี่นวลจะไปทำงานเมืองนอกไหม”

“ที่ไหนละ”

“เดนมาร์ค”

“พี่อยากไปจะไปได้ยังไง บอกมาๆๆ”

น้องสาวบอกว่า “พี่จีไง มีญาติลูกพี่ลูกน้อง ได้ผัวฝรั่งเดนมาร์คและเขามีโรงงานน้ำปลาเขาต้องการคนงาน”

พี่จีมาหาคนงานไปทำงานในโรงงานน้ำปลาของสามีเธอที่จะเปิดใหม่ ซึ่งเขารับเฉพาะญาติ คนที่ไม่มีปัญหา ขยันขันแข็ง คนที่ไม่มีครอบครัวไปทำงาน

“ผัวๆๆๆๆๆๆๆ”

นวลไม่มี”ผัว”ด้วย เผื่อจะได้”ผัวฝรั่ง” เป็นของแถม

“ทำงานเมืองนอก”

“มีผัวฝรั่ง”

“กรี๊ดดดดดดดด!!!!! “

นวลดีใจมาก ดีใจสุดๆๆ ที่จะได้ไปทำงานเมืองนอก

ความหวัง หรือโลกแห่งความหวัง

วันนี้โลกของนวลสว่างไสว มีกำลังดีด”ปึง”ขึ้นมาทันที เหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาได้รับน้ำรด ชุ่มฉ่ำ สดชื่นสะพรั่งขึ้นมาอีกครั้ง

นวลคิดๆๆๆเหมือนกัน แต่คิดอย่างมีความสุข ยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีสุข

นั่งก็ยิ้ม ยืนก็ยิ้มนอนก็ยิ้ม คิดตอนนี้ที่เต็มหวัง

คิดตอนนี้กับคิดตอนนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คิดตอนสุขนะมันแตกต่างจากคิดทุกข์เมื่อตอนลูกหายไปจริงๆๆ

ตอนที่ 10 เมืองนอก

นวลสาว 27 ได้นั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตมันช่างตื่นเต้นจริงๆ

ส่องดูนั่นดูนี้ อะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด

ภาษาก็ไม่ได้ เดินเข้าไปสนามบิน ดีนะที่ไปกันเป็นกลุ่มเกือบ 30 คน ยังกะเหมาลำทำให้นวลอุ่นใจ

การเดินทางร่วม 2 วันจึงได้มาถึงเป้าหมายหมู่เกาะฟาโรห์ ที่ป็นเมืองขึ้นของเดนมาร์กที่ไกลคนละฟากโลกจากเมืองไทยจริงๆ

การเดินทางจากกรุงเทพ 14 ชั่วโมง รอต่อเครื่อง 6 ชั่วโมง บินต่ออีก 2 ชั่วโมง ทุกครั้งก่อนขึ้นเครื่องใหม่ต้องรอให้เขาตรวจบัตรก่อน 2ชั่วโมง ก่อนเครื่องบนออก เมื่อไปถึงเกาะ นั่งรถไป 45 นาที รอขึ้นเรืออีก 3 ชั่วโมง นั่งเรือไปทางใต้อีก 2 ชั่วโมง ถึงฝั่ง นั่งรถต่อไปบ้านพักอีก 30 นาที ในครั้งนี้นวลมีอาการ ทั้ง เมาเครื่อง เมาเรือ เมารถ รวมทั้งเหนื่อยสุดๆ จึงได้ไปถึงเมืองนอก เมืองสวรรค์ในความคิดของนวล มันช่างเดินทางลำบากจริงๆๆ

พอเข้าที่พักไม่ได้ดูอะไร ทุกคนนอนหลับเป็นตายจนเช้า

พอตื่นเช้า

นวลได้ เดินออกมานอกห้อง เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด เธอรู้สึกว่า เป็นอากาศเย็นกำลังพอดี

“สดชื่นจริงๆอากาศเมืองนอก”

“อยากมีผัวฝรั่งอยู่ที่นี่”

เมื่อมาถึงเดนมาร์ค ทุกคนไม่ได้ไปทำงานทันที่ แต่อยู่รองานในช่วงที่ โรงงานพร้อม และโดยฝึกภาษา ไปในตัว 3 เดือนจึงจะเริ่มทำงานได้ ช่วงนี้นวลเรียนภาษา และเดินดูพื้นที่

แต่เพียงสองเดือนของการมาอยู่ที่นี่เท่านั้น ยังไม่ได้ทำงานดังที่นวลมา ความสาวความสวยไม่มีผัวของนวล เพื่อน ญาติ พี่ก็มองว่าน่าจะมีฝรั่งได้

นวลก็มองหาเหมือนกัน อยากได้ผัวฝรั่งด้วย เพราะอากาศมันสดชื่นมาก สูดอากาศเข้าไปในเช้าแรกก็บอกตัวเองแล้วว่านวลอยากได้ผัวฝรั่ง

พี่จี ก็มองหาช่องทางให้เช่นกัน

“พี่จะติดต่อหนุ่ม กัปตันเรือ ออกหาปลา เดียวเขากลับมาจะสะกิดให้ดู”

หัวใจนะมันพองโตด้วยความหวัง

“ความฝันจะเป็นจริง”

ตอนที่ 10 มาแล้วผัวฝรั่ง

พอเขามาถูกแนะนำให้รู้จัก ”เอล” เขาหน้าตาดี ตรงสเปค ตัวอวบๆหน่อย ฐานะปานกลาง ไม่เคยมีลูกมีเมียมาก่อน มันก็เข้าสเปคตรงนี้แหละมากสุดๆ ในตอนนั้น ทั้งที่ภาษาก็ยังไม่ได้ ฟังก็ไม่รู้เรื่อง

แต่ภาษาอยากได้”ผัวฝรั่ง”

“งูๆ ปลาๆ เสนก ฟิดๆ ” พูดได้บ้างเล็กๆน้อย เป็นคำพูดพื้นฐานเช่นสวัสดี โชคดี ราตรีสวัสดิ์

พอเจอกัน มองกันไปมองกันมา

“ตามองตา สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึก…..” ยิ้ม อายกันทั้งสองฝ่าย ต่างแอบมองกัน นวลก้มหน้ายิ้ม

“นี่แหละ กัปตัน เอล หรือไต๋ก๋ง เอลเขาก็หล่อดีนะ “

พอสบตากัน ปิ๊งๆๆๆ คุยเสนกๆ ฟิดๆๆได้อาทิตย์เดียว เอลได้ชวนไปอยู่เป็นคู่ทดลองใช้กันเลย

“ตกลง” จะอะไรก็นวลอยากได้อยู่แล้วที่อยากได้สุดๆคืออยากมีที่พึ่งเพราะนวลมาอยู่ต่างแดนมีเอลเท่ากับมีคนคุ้มครอง ปลอดภัยได้กิน ได้ที่นอน สำคัญอีกแหละคือ”อยากมีครอบครัวอยู่ที่นี่ตามฝัน”

นวลตกลงทันที่ หอบผ้าไปอยู่กับกัปตันหนุ่มโสด สดนั้นทันที

“มันเป็นโอกาสชีวิตช่วงไม่ได้ อิอิ”

ความรักราบรื่น

เจาะแจ๊ะไม่นานผ่านไป 4 ปีนวล มีลูก 2 คนเป็นชายหน้าตาน่ารัก นวลมีหน้าที่ดูแลลูก ส่วนพ่อเอลยอดรักออกเรือหาปลากลับมาเป็นครั้งและออกไปอีก

ช่วงนี้นวลคิดถึงแพรวมากขึ้น ตั้งแตหายตัวไปไม่เคยได้ข่าวเลย ยิ่งเล่นกับลูกชายทั้งสองยิ่งคิดถึงแพรวมากขึ้น จนทำให้นวลนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อไหร่หลับจะฝันเห็นลูกแพรว

และวันนี้นวลฝันถึงแพรวอีก

แพรวฝันว่า นวลไปหาแพรวที่บ้านพ่อและย่าของแพรว

เมื่อนวลไปถึงถามหาลูกอยู่ไหน พ่อกับย่าของแพรวให้แพรวพบกับนวล

พอเห็นลูกนวลวิ่งเขาไปต้องการกอดต้องการหอมลูก แต่แพรวปัดป้องและบอกว่า

”เดี๋ยวๆๆๆ”

จนกระทั่งนวลสะดุ้งตื่นทั้งที่ยังไม่ได้กอดและหอมลูกเลย

เมื่อตื่นขึ้นนวล ใจสั่น ใจไม่ดี และร้องไห้ เป็นอย่างนี้ซ้ำๆครึ่งค่อนปี แต่นวลทำอะไรไม่ได้ เพราะนวลอยู่ที่เดนมาร์คส่วนลูกแพรวนั้นอยู่ที่เมืองไทยและไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหน วันเวลานั้นผ่านมา 11-12 ปีแล้ว

ตอนที่ 11 ตามหาลูก

นวลคิดทบทวนไปมา หาช่องทางและจากการพูดคุยกับคนจึงรู้ว่าอินเตอร์เน็ตอาจทำให้คามรู้ ทำให้โลกแคบลงสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น

นวลจึงเรียนการเล่นคอมพิวเตอร์และการใช้อินเตอร์เน็ต จนนวลได้แนวคิด การหาคนหายโดยการจ้างนักสืบเอกชน อยากรู้อะไร รู้จักข้อมูลของใครต้องจ้างนักสืบ นวลยอมจ่ายเงิน เพื่อลูกข่าวของลูกแพรว

“หัวใจของแม่ แม่ไม่มีวันลืมลูก แม่คิดถึงลูกเสมอ”

ดังนั่น นวลจึงติดต่อกับน้องสาวที่อยู่ที่เมืองไทย ให้จ้างนักสืบเพื่อค้นหาลูกสาวที่หายไป เพื่อล้างใจ ความฝัน ความวิตกกังวลที่มีอยู่เกี่ยวกับลูกให้หมดไป และหากลูกมีชีวิตอยู่

“นวลอยากเจอลูก”

สิ่งที่นักสืบขอคือข้อมูลเกี่ยวกับชัยพ่อเด็ก รูปพรรณสัณฐาน ที่อยู่เดิม พ่อแม่ และนักสืบด้วยว่าสืบหาคนไม่ยากหากมีข้อมูลให้ละเอียด ในหนึ่งอาทิตย์ ทราบผลแน่นอน

นวลได้ส่งข้อมูลไปทางอีเมล พร้อมความหวังที่จะได้ข่าวของลูกแพรว

เพียง 4 วัน นวลได้ข่าวลูกสาว 13 ของนวล

“โอ้ย!!ดีใจสุดๆๆ!!! นวลดีใจสุดๆ “

ข้อมูลที่ได้จากนักสืบคือ รู้ว่าลูกอยู่แล้วว่า ลูกอยู่กับพ่อที่เมียใหม่ รู้ที่อยู่ อยู่ที่ไหน เรียนที่ไหน นวลรู้สมใจอยากแล้ว และนวลหาวิธีการที่จะได้ติดต่อลูกตามหัวใจของแม่ที่เรียกร้อง

นวลได้บอกให้น้องสาว ซื้อโทรศัพท์ให้เพื่อที่นวลจะได้ติดต่อกับลูก เลยบอก น้องสาว ซื้อโทรศัพท์ให้ลูก พร้อมให้เงินลูกด้วย นิดหน่อย

นวลได้โทรคุยกับลูก หลายครั้ง

และวันหนึ่งแม่เลี้ยงใจร้ายก็จับได้ว่าแพรวมีโทรศัพท์ เธอได้ ยึดโทรศัพท์ และตีแพรวต่อหน้า รกำนัล ตามประสาแม่(เลี้ยงใจร้าย) ผู้ห่วงใยลูก จะไปไม่ถูกทางตามประสาคำพังเพย

“รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” โดยไม่ฟังเสียงใดๆ ว่าแพรวพูดคุยกับแม่

นวลได้รู้ข่าวนี้จากน้องสาวของเธอ เมื่อติดต่อลูกไม่ได้ จึงให้น้องสาวซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ พร้อมให้เงินเล็กน้อยอีกครั้ง นวลได้พูดคุยถึงความถวิลหาลูก ความห่วงหาในวันเวลาที่ลูกหายไป บอกลูกว่าไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่คิดถึง

หลังจากได้พูดคุยได้สองสามเดือน นวลคิดว่าลูกควรได้มาอยู่ที่นี่ที่มีอนาคต และ ใกล้ๆแม่ นวลจึงเตรียมตัวที่จะไปรับลูกมาอยู่ด้วย

ตอนที่ 12 และเราก็พบกัน

โดยที่แจ้งน้องสาวให้ไปรับแพรวให้มารับที่สนามบินเมื่อนวลไปถึง โดยไปขออนุญาตคุณครูที่โรงเรียน และไม่ให้พ่อ ร่วมทั้งแม่เลี้ยงรู้ ซึ่งครูได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

นวลอยากเห็นหน้าลูกมาก ใจสั่นไปหมดแล้ว 10 ปีแล้วที่ไม่ได้พบลูก นี่คือข่าวดีสุดๆอีกครั้งของนวล นวลจะได้กอดลูกสาวของนวลแล้ว

ตื่นเต้นแค่ไหนวันนี้จะได้กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากได้ออกจากเมืองไทย 8 ปีเต็มๆ 10 ที่ไม่เคยได้เห็นหน้าลูก

ไม่มีรูปสักใบ ได้ยินแต่เสียงที่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ไม่รู้ว่า หน้าตาลูกแพรวจะเป็นอย่างไร

ถามน้องสาว น้องบอกว่า ก็น่าตาดีนะ หน้าตาสวยได้แม่แหละ แต่ดูลักษณะท่าทาง เหมือนเด็กมีปัญหา ขาดความอบอุ่นนะ ใช่ลูกขาดความอบอุ่นขาดอ้อมกอดของแม่ เป็นเวลา 10 ปี ที่ พ่อของลูกพรากลูกไป และเป็นวันเวลา 10 ปีที่ทรมาน ช่างยาวนานจริงๆสำหรับนวลและแพรวสองแม่ลูก

“บ่วงรัก บ่วงกรรม” เป็นตัวทำให้เกิด ทำให้พบ ทำให้จาก และจะทำให้ได้พบอีก ในไม่ช้านี้

กลางปีนี้ เอลได้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้นวลกลับไปเยี่ยมญาติ โดยกลับเมืองไทยพร้อมลูกชายอีกสองคน 4ขวบและ 1 ปี ในการเดินทางครั้งนี้ แผนหลักๆของนวลคือจะรับลูกสาวมาด้วยหากเธอต้องการมาอยู่ด้วย

ได้กลับไปกราบพ่อแม่ที่คิดถึงอีกครั้ง

นวลนับวันที่จะได้กลับเมืองไทยอย่างใจจดใจจ่อ

“แม่คิดเรื่องของลูกแพรวมากนะลูก”

รอวันที่เธอตื่นเต้นและยิ้มด้วยความสุขอีกครั้ง ได้กลับเมืองไทย ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ พี่น้องและได้พบกับลูกแพรวอีก วันที่ฟ้าเปิดอีกครั้งของนวล

ตอนที่13 ลูกจ๋า

ที่สนามบินดอนเมือง

วันสำคัญที่สุดที่นวลจะได้พบลูกก็มาถึง

นวลหอบข้าวของพะรุงตุงนัง พร้อมลูกชายเล็กๆอีกสองคน

แต่เธอไม่ได้ลูกสึกว่ายุ่งยากเลยเพราะใจของนวลจดจ่ออยู่ที่ แพรวลูกสาวที่แม่ไม่เคยเห็นหน้า เคยได้ยินแต่เสียงใสๆ

เมือผ่านประตูออกมาพร้อมกับลูกคนเยอะมาก ที่ออกมากับประตูโดยสารด้วยกัน คนมารับก็เยอะมากเช่นกัน นวลพยายามมองหาน้องสาว

เดินไปเรื่อยๆพร้มกับลูกอีกสองจนไปถึงที่สิ้นสุดในพื้นที่ทางเดินออก

และนวลก็ได้เห็นน้องสาวจูงมือเด็กหญิงตัวผอมๆคนหนึ่ง

“ลูกแพรวของแม่”นวลคิด

เด็กหญิงตัวผอมมาก แขนขาเล็ก ผมทรงนักเรียน ตัดแหว่งๆ

“โถ่ ลูกแพรวของแม่” ช่างน่าสงสารคนพลัดจากอ้อมกอดแม่จริงๆ

แต่หน้าลูกตาดีอย่างที่น้องสาวบอก

นวลเดินจูงลูกเดินมาอย่างเร็ว เอาลูกคนเล็กให้น้องสาวอุ้มและเธอเข้าไปกอดลูกสมใจอยาก

“ลูกจ๋าแม่มาแล้ว”

“แพรวแม่คิดถึงลูกมาก”

ลูกของแม่ ดวงใจของแม่ ทำไม ถึงมี สภาพแบบนี้ นวลไม่ได้ร้อง แต่ดีใจ และนวลก็เข้าไปกอด พูดคุยสักพัก แล้วก็ไปอยู่ต่อ ที่คอนโด ของหลานสาว แถวสุขุมวิท นวลก็พูดคุยเลย เวลามีจำกัด เพราะจะ บ่าย 4 โมงเย็น น้องสาวจะต้อง เอาแพรวไปส่งที่ห้อง ก่อนที่แม่เลี้ยง จะสงสัย

ตอนที่ 14 มาอยู่กับแม่ไหมลูก

นวลเริ่มเลย นี่แพรวแม่ถามหนูจริงๆ ว่าหนูอยากจะไปอยู่ กับแม่มั้ย แม่ไม่บังคับนะ ตัดสินใจเอาเอง แต่แม่อยากให้หนูไปอยู่ด้วย เพื่ออนาคตวันข้างหน้า ที่ดีกว่า ที่อยู่เมืองไทยนะ ถ้าหนูไม่ไป ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม่จะส่งให้หนูเรียนสูงๆ แต่ถ้าหนูไปกับแม่ หนูจะเป็นลูกคนโตของแม่ เป็นพี่ของน้องๆนะ และต้องช่วยแม่เลี้ยงน้อง ช่วยแม่ทำงานบ้านด้วย แต่ถ้าอยู่ที่เมืองไทย หนูก็จะเป็น ลูกคนเล็กของพ่อ แม่ให้หนูเลือกเอง ตัดสินใจเอาเองนะ ถ้าถามแม่ แม่อยากให้หนูไป ตกลง ไม่ไป น้องสาวก็เลยพาไปส่ง ที่ห้อง

หนึ่ง ชั่วโมง ผ่านไป

“ ก๊อกๆ ก๊อกๆ”

นวลคิดว่าน้องสาวจะกลับมาแต่ทำไมไม่ยอมเปิดประตูเข้ามา หรือว่าลืมกุญแจ

พอนวล เปิดประตูออกไป

“ จ๊ะเอ๋!!!”

“เอ้า!!!กลับมาทำไม มีอะไรเหรอ หรือเปลี่ยนใจ”

น้องสาวบอก “น้าพาหนูแพรวไปส่งแล้ว แต่ไม่ยอมลงจากรถ และก็ร้องไห้”

“บอกว่า หนูจะไปอยู่กับแม่ น้าพาหนูไปที พาไปหาแม่หน่อย”

แค่นี้หัวใจของแม่ก็พองโตแล้ว นวลกอดลูกของเธออีกครั้ง

และทั้งสองก็กอดกันแน่น โดยมีสายตาของน้ามองดูอย่างมีความสุข

นวลพากันไปเที่ยว สนุกสนาน เฮฮา

ไม่เสียใจเลย กับการรอคอย ที่ยาวนาน

มันก็มีวันนี้ วันทีนวลมีความสุข

ไม่ต้องฝันร้ายอีกต่อไปแล้ว

เวลาผ่านไป เร็วเหมือนโกหก แพรวได้มาอยู่ ที่เมืองนอก กับแม่แล้ว ยินดีต้อนรับ กลับสู่อ้อม อก อีกครั้งนะลูกรัก ดวงใจของแม่

ตอนที่ 15 ชีวิตของแพรว

ความรักและห่วงใยและไม่ได้อยู่ในอ้อมอกนานนวลได้สังเกตพบบางครั้งเหมือนลูกมีอะไรคุ้นคิด

จึงได้พูดคุยกับลูก ชีวิตแพรวที่ขาดแม่และมีแต่แม่เลี้ยง ส่วนพ่อก็ไปทำงาน นานๆกลับมาบ้านครั้ง

10 ปีเต็มในชีวิตของแพรวกับแม่ตู๋ คนอีสาน เธอมีลูกของเธอเองแล้ว2คน แพรวจึงเหมือนลูกคนเล็กของเธอ

จึงมีเรื่องราวแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง เกิดเพราะรักผู้ชายคนเดียวกันถึงแม้จะต่างสถานภาพแต่ก็เจ็บปวด แพรวได้เล่าถึงส่วนเจ็บปวดที่เธอได้รับตั้งแต่จำความได้จนอายุ 13 ปี

ครั้งเป็นเด็ก แพรวไม่กินเผ็ด อีแม่ตู๋ก็เอาข้าวเหนียวยัดไส้พริกให้แพรวกิน

“เผ็ดๆๆแพรวไม่กิน ฮือๆๆ”

น้ำตาแพรวไหล พร้อมปากซีดซาด เผ็ดดื่มน้ำตามและเกลือจิ้มเข้าไปด้วย

แม่เลี้ยงจับยัดใส่ให้กิน

“กิน กิน กิน “ ถ้าไม่กินแม่เลี้ยงก็เอามะเหงกเขกลงไป ทีหัว

“นี่แน่”

“โป๊ก “

“กินหรือไม่กิน มึงต้องกินนะ”

นี้แหละการฝึกของแม่เลี้ยง

แพรวได้หัดให้ทำงานบ้าน ทุกอย่างในบ้าน ทำเป็นหมดเลย หุงข้าว ทำกับข้าว กวาดถูบ้าน ซักผ้ารีดผ้า และออกไปขายของ ที่ตลาด กับแม่ตู๋ด้วย หิวก็หิว

“แม่คะแพรวหิว แพรวอยากกินลูกชิ้น”

“ มันไม่มีประโยชน์และแพง แม่ไม่ซื้อ”

แม่ตู๋ ก็ไม่ซื้ออะไรให้แพรวกินเลย

ส่วนพ่อ 2 เดือนจะมาหาสักครั้งนึง ต้องอยู่กับ แม่ตู๋ ทุกๆวัน ทุกปี ที่เป็น วันเกิด พ่อจะมา เอาเงินไว้ให้ แล้วบอกว่า ให้แม่ตู๋

“พาแพรวไปกิน KFC ไก่ทอด” พอพ่อกลับ

แม่ตู๋ ก็ไปซื้อ ไก่ทอด ที่ตลาดนัดมาให้กิน บอกว่า

“กินๆไปเหอะ นี่มันก็ไก่ทอดเหมือนกัน”

เวลา แม่ตู๋ ปวดเมื่อย ก็จะเรียก

“ อีแพรว เอ็งมาบีบให้แม่ หน่อยซิเร็วๆเข้า”

“โอ้ย อะไรเนี่ย เอ็งบีบยังไง หยั่งกะควาย มาเหยียบ กูนี่ ออกไป ไม่ได้ดั่งใจกูเลย”

และก็เป็นแบบนี้ตลอดมา 10 ปี ทั้งตบ ทั้งตี ทั้งถีบ แพรวถูกแม่เลี้ยงกระทำตลอดโดยที่พ่อไม่รู้

ครั้งนั้นแพรวคุยโทรศัพท์หน้าอพาทเม้น คุยกับแม่นวล แม่ตู๋เห็น เธอได้วิ่งมาแย่งโทรศัพท์ลงพื้นและตบตีแพรวจนล้มกลิ้ง

“ไปขะโมยใครมา ริเป็นขี้ขะโมยเหรอ ห๋า!!!”

หน้าอพาร์ทเมนต์ แพรวทั้งเจ็บทั้งอาย จึงไม่ได้โต้เถียงและวิ่งหนีไป

ปัญหาลูกเลี้ยงเป็นปัญหาโลกแตก ที่มีขึ้นทุกวันและ

“ไม่มีวันจบสิ้นจนแพรวมาอยู่กับแม่”

ลูกของนวลที่ได้รับความเจ็บปวดของการขาดแม่และมีแม่เลี้ยงใจร้ายดูแล

“โถ ลูกแม่”

“แต่แพรวก็รอดมาได้ และตอนนี้ ได้อยู่ ที่เมืองนอกกับแม่ ด้วย” แม่ลูกกอดกัน

ตอนที่ 16 ยาใจ

“ลูกแพรวได้มาอยู่กับแม่แล้ว แม่จะเอาความรัก ความคิดถึงนี้มารักษาเยียวยาใจให้ลูกเอง”

“แม่รู้ว่าลูกอาจจะคิดว่าแม่ทิ้งลูกไปและปล่อยให้ลูกเจ็บปวด “

“แม่ขอบอกลูกว่า แม่รักลูกและคิดถึงลูกเสมอ”

บาดแผลจากการทำร้ายทางดวงจิตนั้นมันรุนแรงและอยู่นานในความทรงจำกว่าบาดแผลทางการ

แผลจิตนี้บาดลึกเจ็บนาน จำได้ไม่เคยลืม ให้อภัยแต่ไม่อยากเข้าใกล้อีกแม่เข้าใจ ต้องใช้เวลาที่จะเหยียวยา แต่ต้องพยายาม แม่นวลอยู่ที่นี่แล้ว ได้กอดลูกแพรวแล้วแม่นวลจะเอาความรักเหยียวยาใจของลูก

“แม่จะปกป้องลูกเอง”

นั่นคือความในใจของนวลเมื่อได้กอดได้พูดคุยกับลูก

“แม่ขอโทษที่แม่ไม่ได้ไปรับลูกมาในตอนนั้น แม่พยายามหาแต่หาลูกไม่พบ แต่วันนี้ลูกอยู่ที่นี่กับแม่แล้ว”

“แม่เข้าใจว่าแพรวได้ต่อสู้ ทนทุกข์ยาก เจ็บปวด แม่ขอโทษนะลูก”

ทั้งสองได้กอดกันพร้อมน้ำตาไหลริน แต่เป็นดวงตาของความปิติสุข

ในสิ่งที่นวลห่วงใยลูกและคิดเสมอว่าจะดูแลลูก เพราะนวลเห็นเพื่อนที่เอาลูกติดไทยตอนโตแล้วมาอยู่ด้วย หลายคนเกิดปัญหาในการปรับตัว คือช่องว่าง คือความไม่เข้าใจ การทำมาหากินยุ่งยากหลายประการ พอมาแล้วเด็กไทยโตที่ไทย มาใหญ่ที่ต่างประเทศ บางคนไม่ถูกกันกับแม่ พอได้ภาษาปรับตัวเข้ากับเด็กต่างชาติ ไม่เข้าใจความรักความห่วงใยของแม่คิดว่าถูกบังคับ มีปัญหาเรื่องการปรับตัว เลยเตลิดเตลยไปติดเพื่อน ติดยา ขายตัวแลกยา ปัญหารุนแรงตามมาเสียอนาคต แต่ไม่ได้เกิดกับลูกติดจากไทยทั้งหมด บางคนจิตใฝ่ดีคิดว่าตัวมีโอกาสดีกว่าลูกคนอื่นก็สร้างอนาคตและก้าวหน้ากว่าฝรั่งเสียอีก

แม่จะดูแลลูกและเป็นต้นแบบที่ดีเพื่อลูกและเพื่ออนาคตของลูก นวลคิดเสมอนวลต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของลูกหากลูกเห็นนวลทุกวัน นวลไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี ไม่ฟุ่มเฟือย นวลอยากให้ลูกของนวลและลูกใหม่ ให้เขาได้เป็นคนดี เพื่อนวลจะได้ชื่นชม

ตอนที่ 17 ดวงใจแม่

หลังจากมาอยู่ด้วยกันนวลมีความสุขมาก ลูกแพรวมีสุข โลกแห่งความสุขสว่างไสว นวลมีลูกทั้งชายและหญิงเคียงข้าง หน้าตาน่ารัก และคิดว่าตัวเองมีครอบครัวที่สมบูรณ์สุดๆ

ความสุขทำให้เวลาโบยบินไปได้อย่างรวดเร็ว

แพรวมาอยู่กับแม่ได้ปีกว่า

และนวลก็ท้องอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ อิอิ

อีกไม่นาน นวลกับเอลเริ่มมีเรื่องไม่ลงรอยทะเลาะกันและทะเลาะกันบ่อยขึ้น

“ฉันจะส่งลูกเธอ กลับเมืองไทย ตั้งแต่ลูกเธอมาอยู่ที่นี่ มันทำให้เลาะกันบ่อยๆ”

“โอ๊ยตายแล้ว” ต้องพลัดพรากลูกมา 10 ปีอยู่ด้วยกันได้แค่ปีกว่าๆเอลจะส่งลูกกลับนวลเครียด กลุ้มใจ คิดมากๆ นวลจะทำอย่างไรดีนะ หนึ่งก็ผัว อีกหนึ่งก็ลูก

“ แพรวอยากกลับ ไปอยู่ที่เมืองไทยมั้ยลูก”

“ ไม่อยากไป หนูอยากอยู่ที่นี่”

“ตอนนี้ แม่มีปัญหากับเอล เราต้องย้ายบ้าน แม่จะพาออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อแพรว เหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นแพรวจะต้องช่วยแม่และเชื่อฟังแม่ เพราะเรามีเรา”

“คะแม่”

“แม่จะเป็นยังไง จะผิด หรือ ถูก หนูต้องเข้าข้างแม่นะ เราจะอยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือกัน”

นวลพาท้องใหญ่ๆ ได้ 7 เดือนขนย้ายสัมภาระลูกเต้าออกไปหาที่อยู่ใหม่ ห่างออกจากบ้านเดิม 30 กิโลเมตร คน 4 คน แม่ลูก แพรวย่าง 16 คน ที่2 ย่าง 7 ขวบ คนที่3 ย่าง 3 ขวบ

ลูกทุกคนกำลังกินกำลังนอนไม่รู้จักทำงาน แม่ท้องแก่ มีแต่แพรวที่สามารถช่วยแม่หุงหาอาหารได้ งานไม่ได้ทำ เงินก็กำลังหมด การช่วยเหลือจากรัฐก็ล่าช้า

“จิตตก ท้อ” ออกมาแล้ว ถอยไม่ได้ต้องยืนหยัดเท่านั้น เพราะนวลมีลูก

นวลไปยืนหน้ากระจก เห็นผู้หญิงตาครุ่นคิด ด้วยดวงตา ที่แห้งฝากด้วย ท้องใหญ่ ผมกระเชิง นั่นแหละยัยนวลคนสวย นวลบอกตัวเอง

“ นวล อย่ากลัวนะ สู้ๆ ทำเพื่อลูกๆ ที่นวลรัก นั่นมันเลือดเนื้อ และหัวใจของนวลนะ”

“นวลต้องทำให้ได้ ใบอนุญาตให้อยู่นวลก็มี รถนวลก็ขับได้ แล้วจะกลัวอะไร นวลยังไม่ได้สู้เลย จะท้อถอยแล้วเหรอ “

ปิดห้องร้องไห้ ร้องๆๆๆๆๆ ร้องมันออกมาให้พอ ไม่อยากให้ลูกๆเห็น ในความอ่อนแอของแม่ นวลต้องเป็นหลัก ปักให้แน่น ถ้านวลล้ม มันไม่ใช่แค่นวลคนเดียว แต่รวมถึง ลูกๆของนวล

“สู้ ทนเพื่อลูกนะนวลนะ”

ตอนที่18 แตกสลาย

บ้านเช่าหลังใหม่ นวลและลูกสามคนและสี่ในท้อง ห้าชีวิต นวลได้เอาเงินสะสมมาซื้อรถเก่าๆปุเรงๆ เอาสมบัติไปจำนำเพื่อให้มีเงินพอใช้ เธอมีงานทำ ลูกๆไปโรงเรียน

นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่ไร้ผู้ชายที่เป็นสามีดูแล นวลได้จัดระบบให้ลูกๆมีหน้าที่และช่วยเหลือตัวเองได้

นวลเองก็มีเวลาที่กำหนดตายตัวเช่นตื่นตั้งแต่ตี 5 ทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ 730 ต้องออกจากบ้าน ไปส่งลูก และเลยไปทำงานต่อ กลับมา 1630 รับลูก 3 คนกลับบ้าน

ส่วนแพรวมีหน้าที่ หุงข้าว เจียวไข่ หรือไม่ก็ ผัดผัก ไข่พะโล้ ซักผ้า แค่เอาผ้าใส่เครื่องปั่น ล้างจาน

ส่วนแม่ สองทุ่ม ต้องพาลูก สามคนเข้านอน เพราะนอน ห้องเดียวกัน

ส่วนแพรวทำอะไรเสร็จแล้ว ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนข้างนอก กลับมาตอนไหน นวลไม่รู้ เพราะนวลหมดแรง หลับเป็นตาย

เป็นช่วงชีวิตที่เหนื่อยสุดๆ เลี้ยงลูกคนเดียว เหนื่อยแทบขาดใจดิ้น ลูกๆจะไดกินอาหารดีๆ ต่อเมื่อแม่หยุดงาน จันทร์-ศุกร์ ส่วนใหญ่ไข่เป็นหลัก และเป็นอยู่แบบนี้ 5 เดือน

นวลกำลังที่จะมีความสุข เห็นลูกๆ เติบโตมา กับมือของนวล สองแขน สองขานี้ นวลทำได้แล้ว นวลทำมันได้จริงๆ และนวลก็เดิน ไปที่ กระจกบานเดิมอีกครั้ง ยิ้มให้กับตัวเอง และบอกว่า “นวล เธอเก่งนะ เธอทำได้แล้ว ถึงมันจะเหนื่อยแค่ไหน กายเกือบล้ม ลมหายใจเกือบหยุดเต้น แต่ตอนนี้นวลทำได้” นวลต้องยิ้มให้เยอะขึ้นทุกวัน และต่อไปจะเป็นเสียงหัวเราะที่ดัง

“ฮาๆๆๆ”

ตอนที่ 19 ลูกติดเพื่อน

เดือนที่ 6 นวลเริ่มสังเกตุเห็นว่า แพรวกลับบ้านดึกทุกวัน เที่ยงคืน ตีหนึ่ง แล้วเวลานอนไม่เพียงพอ มันจะเพลียๆ ไม่ค่อยอยากจะตื่นตอนเช้า แม่ก็ไปทำงานสาย บ่อยๆ ภายใน สองเดือนนี้ หัวหน้าก็บ่นๆ นวลก็เกรงใจ มีอยู่คืนหนึ่ง นวลลุกไปเข้าห้องน้ำ เอ ทำไมประตู ห้องรับแขก มันเปิดทิ้งไว้ ไฟก็เปิด นี่มัน ตีหนึ่งนะ แพรวหายไปไหน ทำไม ไม่ปิดประตู ปิดไฟ

“แพรวๆๆทำไมไม่ปิดประตูลูก” นวลเดินหาลูกทั่วบ้านแต่ไม่พบ นวลตกใจมาก ใจสั่น มือไม้มันสั่นไปหมด นอนไม่หลับเลย ยันเช้า ลูกหายไปไหน โทรศัพท์ไปตามแต่ปิดเครื่อง นวลจะทำอย่างไรดี

หลังจากวันนั้น

นวลกับแพรวเริ่มทะเลาะกันบ่อยๆ แพรวจะเชื่อฟังเพื่อนๆ เพื่อนสอนว่า

“ไม่ต้องกลัวแม่หรอก ใครจะมาทำอะไรนวลไม่ได้ เราอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพ เสมอภาค”

“ถ้าแม่ด่า ให้ด่าตอบเลย อย่าไปสนใจ แพรวโตแล้ว “นี่คือเพื่อนของแพรวสอนแพรวมา

“ใช่นั่นมันบ้านเมืองของเขา จะทำอะไรก็ได้ แต่นี่ นวลแม่ลูก ประเทศนี้ นวลไม่มีญาติ นวลมีกันอยู่ แค่ 2 คน คือหนูกับแม่ ถ้าหนูทิ้งแม่ไปอีกคน แล้วแม่จะอยู่อย่างไง ไหนจะน้องอีก”

เงียบ!!!

ไม่มีคำพูดจาไดๆ และทำท่าทาง ไม่สนใจใยดีแม่เลย แล้วแพรวก็ออกจากบ้านไป ย้ายไปอยู่กับผู้ชาย อายุห่างกัน 16 ปี แพรวอายุ 16 ผู้ชาย 32 หน้าตาดี ไม่แก่ทำตัวเป็นวัยรุ่น แพรวทั้งรักทั้งหลง เชื่อเขาทุกอย่าง เขาบอกให้ทำอะไร ก็ทำตามทุกอย่าง

หัวใจแม่สลาย

นวลทั้งท้อ ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด ไม่มีญาติ ไม่มีใครมีแต่ลูกเล็กๆอีกสามคน ที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย

ชีวิตนวลช่างมืดแปดด้าน จริงๆ

ตอนที่ 20 แม่คนไทย"หัวใจแตกสลาย"

เรื่องที่ลูกอายุไม่ถึง 18 มีปัญหา แม่ไม่ดูและ ต้องแร่ไปอยู่กับชาย จึงเป็นเรื่องใหญ่ไปถึงอำเภอ เป็นปัญหาที่ใหญ่จริงๆ เพราะหากลูกทำผิดคนที่ผิดมากคือพ่อแม่ที่คอยดูและ

เมื่ออำเภอมาหาได้พูดคุยกัน จะทำอย่งไรกันดี

ลูกแพรวนางเอกผู้น่าสงสาร น้องแพรวพูดออกด้วยคำพูดที่แม่เจ็บปวดเพราะแม่ทำดีที่สุดแล้วที่แม่คนเดียวดูแลลูกสี่คน

“ แม่ใช้งานหนักเกินไป ทำนั่นนี่ทั้งวัน แพรว เหนื่อย แพรวทำไม่ไหว”

“แม่ไม่เคย ให้เงินใช้ส่วนตัวเลย เวลาออกไปเที่ยว กับเพื่อนๆมีแต่เพื่อนๆจ่ายให้”

“แม่ไม่รัก แม่ไม่เคยแม้แต่จะกอดแพรวเลย บลาๆๆๆๆ”

“แม่” ช่างเป็นคนใจร้ายในสายตาของลูกเหลือเกิน

แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกแม้กระทั่งเลือกออกมาอยู่นอกบ้าน เพราะเอลให้ส่งลูกกลับนะเหรอ แม่ที่ทำทุกอย่างเพื่อลูก

นวลไม่มีคำอธอบาย มันจุก มันแน่น นั่งร้องไห้ โก๊กกๆๆๆๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร มันพูดไม่ออก มันอัดอั้น มันจุก เหมือนจะหายใจไม่ออก อึ้ง ใจสั่น มือสั่น น้ำตาไหลริน

“เอ้อหน่อ ลูกๆๆๆๆๆ ทำไมลูกถึงทำยังงี้ ลูกรู้ไหมว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อลูก เพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน”นวลบอกก้องในใจแต่ไม่สามารถกลั่นกรองออกมาพูดให้ลูกฟังได้ รู้แต่มันจุกๆๆๆน้ำตาไหลรินมองลูกที่นั่งเมินๆอยู่นั่น นวลต้องอธิบาย

“มันไม่เป็นความจริงเลย”

“แม่ให้ลูกช่วยทำงานที่ต้องทำเพื่อการดำเนินชีวิต เช่นซักผ้า ตากผ้า หุงข้าว เจียวไข่ ล้างจาน เป็นงานปกติ เราต้องช่วยๆกัน ลูกอายุ16ที่สามารถช่วยแม่ได้ และมีน้องตัวเล็กๆ ที่ยืนอยู่อีก 3 คน ที่ทำอะไรไม่เป็นแต่ต้องกินกันทุกคน “

“แม่ให้เงินหนูตลอด รายวันก็ให้ 10-20 โครน อาหารการกิน ขนม มีทุกอย่างให้ ไปเทค ทุกเสาร์ให้ 100 โครน”

“ ถ้าแม่ไม่รัก แล้วหนูจะมีวันนี้มั้ย ลูกมาตำหนิแม่ ลูกรู้ไหมกว่าแม่จะเอาลูกมาได้นะมันเป็นเงินเก็บทั้งสิบปีของแม่ที่ไม่ได้กลับไทยนะ เพราะรักลูก แม่จ่ายเงินเก็บทั้งหมดที่มีเพื่อนนำลูกมาอยู่ด้วยทุกอย่างต้องจ่ายนะลูก”

“ แม่ทั้งรักและห่วงใย นี่แหละ ความรัก ความห่วงใย ความหวังดี ที่แม่มีให้”

ทางอำเภอได้ขอพาสปอร์ต ของน้องแพรวไป แล้วพาแพรวไปอยู่ กับ

”แม่บุญธรรม”

"หัวใจมันแตกสลาย" มันหมดแล้ว ทุกสิ่ง

นวลจะทำยังไง จะอยู่ยังไง มันอึดอัด อัดอั้น เหมือนใจมันจะขาด

มันทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆมองหน้าลูกเล็กๆอีกสามคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรได้แต่บอกตัวเองว่า

” ไม่นะ นวลยังตายไม่ได้ มองไปข้างหลัง ยังมีลูกน้อยรอนวลอยู่ อีก 3 คน”

ตอนที่ 21 ลูกจ๋า

หลังจากที่แพรวไปอยู่ที่ครอบครัวใหม่ กับครอบครัวคนดูแลแล้ว

นวลได้พยายามทำใจ โดยยึดลูกเล็กๆสามคนเป็นตัวเหนี่ยวนำชีวิต สามคนเล็กๆยังต้องการแม่

“แม่ต้องกลับมา สู้ต่อ สู้ให้ถึงที่สุด สู้เพื่อลูกๆของแม่”

“แม่จะกลับมามี หัวใจ อีกครั้ง เพื่อลูกๆของแม่”

ในวันนั่นแม่จำได้ดี

21 ธันวาคม 2009 นวลกำลังจัดของอยู่ แพรวมากับแฟน แฟนนั่งทีโซฟาคุยกับนวล ส่วน แพรวไป ยืนข้างๆ มองๆ คุยอยู่แป๊บเดี๋ยว แพรวได้ชวนแฟนกลับ

ลูกแพรวของแม่ ไม่มีสวัสดี ไม่ได้ไหว้ ไม่ได้เป็นลูกตามประเพณีไทยเลย

ลูกไม่คิดจะไหวแม่ของตัวเองเลยเหรอ

ลูกแพรวคุย กับนวลทำเหมือนเป็นคนอื่น พูดน้อยๆ ห่างๆ เมินๆ เหมือนคนไม่รู้จักกัน

นี่แหละนะลูกแพรวที่ห่างอกรักของแม่มานาน ชีวิตลูกอาจสับสน

นวลได้แต่เพียงมองลูกที่เป็นสุดที่รัก ด้วยความเวทนา สงสารที่ลูกสับสนในการปรับตัวตามประเพณีต่างถิ่นและความไม่เข้าใจกัน แต่แม่จะทำยังไงได้ในตอนนี้

“ลูกเอ้ย”การเข้าสังคมใหม่ของลูกทำให้ลูกเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ

เมื่อก่อนนั่น ลูกอยู่ในที่ทุกข์ใจกับแม่เลี้ยงที่ทรมาน แต่ แม่คนนี้ ไปฉุดมันขึ้นมาอยู่ บนวิมานใหม่ที่สุขสบายขึ้น ทำไมไม่คิดสักนิด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา หากลูกได้มีเวลาทบทวน มีเวลาคิด ลูกโตขึ้นลูกจะรู้ว่าเหตุการหลายอบ่างมันเกินที่แม่จะบังคับให้อยู่ในเส้นทางและเหตุการณ์หลายอย่างที่แม่ได้ทำ เหตุเกิดเพราะมีเหตุ

“เหตุเกิดเพราะแม่รักลูก “

ตอนที่ 22 สิ้นสุดทางรัก

ในวันคริสต์มาส เอล ได้เชิญทุกคนกลับไปกินข้าวที่บ้าน

ทำให้เราได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง หลังจากแทบไม่ได้ติดต่อกัน

นวลและเอล ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาและแพลนในการดำเนินชีวิตเพื่อลูกที่กำลังโต

“เรากัลบมาอยู่ด้วยกัน” เอลชวนนวล ตอนนั้น ใจนวลกำลังแย่มากเกี่ยวกับปัญหาของแพรว ไหนจะลูกๆอีก

“ขอเวลานวลคิดทบทวน สักพักก่อน จะให้คำตอบ”

ปีใหม่ ผ่านพ้นไป

แต่เรื่องปัญหา เก่าๆ กลับตามมา ตำรวจโทรมาหาให้นวลไปที่โรงพักด่วน แพรวกับแม่บุญธรรม แจ้งข้อหา เอล

“เอลลวนลามจับนั่น จับนี้ของแพรว”

“อึ้งกิมกี๋”แม่ไม่คิดว่ามันจะเกิดนะลูก

ตำรวจเรียกไปสอบสวน

และแพรวบอกอีกว่า

“ แม่ของฉันจะเอาแฟนของฉันไปทำผัว!!!!!”

ดู๋ดู ดูมันทำเข้า ดูมันพูดซิ ตำรวจ แพรวพูดแแบบนี้กำตำรวจจริงๆ

สวรรค์หรือนรก แจ้งจิต เจาะปากให้แพรวมีความคิดมาพูด

กรี๊ด!!!!!ปรี๊ดดด!!!!!! สติแตก

นี่ละลูกแพรวของแม่

เด็กที่น่าสงสารที่ถูกพ่อพรากลูกไปจากอกแม่เมื่อยังเล็ก

ลูกที่แม่คิดถึงอยู่ทุกค่ำเช้าและพยายามค้นหา

ลูกผู้น่าสงสารของแม่ ตัวผอมผมแหว่งที่แม่เคยเห็นสนามบินในวันนั้น

ลูกที่น่าสงสารที่ต้องผจญชีวิตในอ้อมอกแม่เลี้ยงมา 10 ปี

ด้วยรักแม่ยอมเสียเงินหลายแสนที่เป็นเงินเก็บในสิบปีเพื่อให้ได้ลูกมีอนาคต

นี่หรือลูกสุดที่รักของแม่

นี่หรือลูกที่แม่เบ่งออกมา

นี้หรือลูกที่มีเลือดของแม่

อึดอัด อัดอั้น หายใจไม่ออก อกแม่จะระเบิด

หัวปวดปรี๊ดๆๆๆๆๆ

มือสั่น

ตาแห้งผากไร้ความรักและความหวังไม่มีอีกแล้วๆๆๆๆๆ

ทำไมคนที่เป็นลูกและแม่ทำทุกอย่างให้ลูกได้มีอนาคตทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ เพราะแม่ไม่ดี เพราะแม่มีปัญหา หรือเพราะสังคมใหม่ทำให้ลูกไม่รู้ว่าแม่มีรักและแม่รักลูก ไม่รู้ประเพณีไทย ไม่รู้พระคุณเลยหรือลูก

“ทำไมลูกจึงทำร้ายแม่ได้มากขนาดนี้”

ตอนที่ 22 บ่วงรักบ่วงกรรม

บันทึกจากนวล

นวลไม่เคยคิดเลยว่าการที่เธอได้นำลูกติดของเธอที่เมืองไทยที่เคยเผชิญปัญหาการถูกทำร้ายจิตใจจากคนที่ลูกอาศัยอยู่ด้วย และนำลูกไปอยู่ด้วยในช่วงวัยต่อ หรือช่วงกำลังเข้าวัยรุ่น จะก่อให้เกิดปัญหาที่มีผลกระทบต่อหลายๆชีวิตได้มากมายขนาดนี้

นวลและสามีมีการทะเลาะเบาะแว้งกันมากขึ้นหลังมีลูกติดจากไทยมาอยู่ด้วย

นวลและสามีได้แยกกันอยู่ทั้งที่มีลูกเล็กๆด้วยกัน เพราะนวลไม่ต้องการให้ลูกแพรวที่เป็นลูกติดกลับไปอยู่ไทย

ลูกแพรวอยู่ในช่วงปรับตัวเข้าสังคมใหม่ เรียนรู้ภาษาวัฒนธรรมที่อาจขาดอาจเกินบางส่วนจนก่อให้เกิดปัญหาโถมกระหน่ำเข้ามาในครอบครัวจนต้องไปอยู่ในครอบครัวใหม่หรือมีแม่บุญธรรมแม่อุปถัมภ์ แม่ต้องเผชิญโชคดีโชคร้ายคนเดียวในโลกของการต่อสู้ ชีวิตหลังจากพยายามอุ้มลูกติดจากไทย ท้อหลายหน แต่ต้องทนเพราะลูกๆๆและลูก

นวลทำด้วยความพยายาม เดินออกไปครอบครัวแล้วต้องเอาตัวให้รอดอยู่ให้ได้และเป็นเสาหลักให้ลูกๆ จริงๆแล้วหากไม่คิดถึงความทรนงแต่คิดเรื่องชีวิต ความเป็นอยู่ของลูกๆอาจทำให้มีการปรับตัวได้เร็วขึ้น

ปัญหาการปรับตัวของลูกติดวัยรุ่นในสังคมใหม่มีปัญหาเล็กๆน้อยๆ หรือใหญ่ๆเข้ามาซ้ำๆซ้อนๆ

“เพราะ………?”

นวลไม่มีเวลาให้ลูกเพราะสถานภาพชีวิตยุ่งยากมากแต่

“แม่รักลูกนะจึงได้หาช่องทางให้มาอยู่ด้วยกัน”

แต่เพราะอีกจุดคือนวลมีลูกเยอะ ลูกๆหลายคนจนนวลขาดเวลาในการสร้างสัมพันธภาพกับลูก

หลายสิ่งหลายอย่างประจวบเหมาะ เกิดขึ้นตามเหตุ

นวลคิดว่าเมื่อไรที่เธอ”หมดกรรม” ลูกคงจะกลับมาอยู่ใน

”อ้อมกอดของเธอ อ้อมกอดของกันและกันอีกครั้ง”

จดหมายจากนิรนาม

จากการอ่านเรื่องราวของนวลและแพรว นิรนามขอให้น้ำจากฟากฟ้าน้ำจากสรวงสวรรค์ได้ซะล้างปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างแม่ลูกและกลับมาคืนดีกันอีกครั้งในวันนี้วันพรุ่ง

และขอให้คุณแม่นวลมีสุขใจได้เห็นความสำเร็จของลูกๆคะ

ขอให้ลูกๆของนวลประสบผลสำเร็จอย่างที่แม่ตั้งหวัง

ขอให้อนาคตของทุกตัวละครในเรื่องบ่วงกรรมจงหลุดพ้นบ่วงนี้ ให้มีชีวิตเจริญสุขคงอยู่ในบ่วงรักบ่วงสุขและบ่วงเจริญต่อไป

อวสาน


 
 
 

Comments


คลิกดูเรื่องน่าอ่าน
Tag Cloud

ขออภัยกำลังอยู่ใน

ขั้นตอนทำเวปเพจคะ

 ThaiMadam's story

© 2014 by The Book of  Lover "Thai madamstory" Proudly created with Wix.com

  • Facebook B&W
  • Twitter B&W
  • Google+ B&W
bottom of page