top of page

#สมคิดพิชิตรัก หนุ่มไทยได้เมียฝรั่ง ดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อมาอยู่ครองรักกันในต่างแดน จะสุข จะทุกข

  • มาดามพรทิพย์ &Naan ๑เรื่องนี้มาดามพรทิพย์
  • Jul 18, 2015
  • 4 min read

ตอนที่ 1 สมคิดที่ไม่สมรัก

สมคิด หนุ่มเหนือ วัย เบญจเพส เป็นคนเชียงราย ตอนนี้เป็น พ่อหม้ายจากการหย่าร้าง พร้อมทั้งมีลูกติดชื่อน้องดา มันไม่ง่ายเลย สำหรับการเป็นทั้งพ่อและแม่แก่ลูกสาวในเวลาเดียวกัน

หลายปีก่อน สมคิดเคยแต่งงานกับสาวสวยไทยอีสาน บ้านน้องอยู่อุดร

แต่ ชีวิตรัก ชีวิตครอบครัว ไม่ราบรื่น การทำมาหากินฝืดเคือง ปัญหาอะไรๆ ก็เกิด จึงทำให้ทั้งสองเลิกรากัน โดยสมคิดได้หอบลูกสาวกลับบ้านเกิด มาทำมาหากินทุกชนิด หนักเอาเบาสู้ ขอให้ได้เงินมาเลี้ยงชีพ เพื่อตัวเองและลูก

สมคิดทำงานหนัก สมคิดก็เอา งานเบารายได้ก็เบาไปด้วย รายได้ พอกิน พอใช้ แต่ไม่พอเก็บสมคิดไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีมีน้องดา ลูกรักที่ ทำให้สมคิดดิ้นรนมากขึ้น หากลูกโตขึ้นจะได้มีอนาคต ไม่ต้องมาหางานยาก หรือทำงานหนักอย่างสมคิด

วันนั้นหนุ่มสมคิดวัย 37 ได้ทำมาหากินที่เชียงรายที่เป็นเมืองท่องเที่ยว

ที่นั่นมีร้านนวดไทยเยอะแยะ เขามีลูกค้า ทั้งไทยและเทศ เดินเข้าเดินออกร้านไม่ขาด ที่นั่นมีป้ายหน้าร้าน เขียนราคาค่าบริการนวด ไทย นวด น้ำมัน ชั่วโมงหนึ่ง ก็เท่ากับรายได้ในการทำงานของสมคิด แทบจะครึ่งวัน เป็นรายได้ที่มากโข

นี่คือ การจุดประกาย แนวคิดการทำมาหากินของสมคิด เพื่อตัวเอง เพื่อลูก เพื่ออนาคต

“หมอนวด”

สมคิด อยากเป็นหมอนวด อยากหารายได้คล่องขึ้น ดีกว่าเป็นคนใช้แรงงาน ที่ ไม่รู้วันนี้จะได้ หรือไม่ได้ และแล้วสมคิดก็ไปเรียนนวดอยู่นะวัดแห่งหนึ่งเพื่ออนาคต

ตอนที่ 2 เรียนนวด

วัดแห่งนี้ มีโรงเรียนสอนการนวด ไทย โดยใช้เวลาเรียน ถึงสี่เดือน ทั้งวัดนี้ ได้รับความนิยมในการเข้ารับการนวดจาก ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ ในการเรียนครั้งนี้ สมคิดได้พบสาวนักเรียนนวดจากต่างแดนนาม แหม่ม วัย 27 เธอเป็นพยาบาล จากต่างแดน ด้วยความรักธรรมชาติ จิตใจอ่อนโยน รักการนวด จนได้ลางานเข้ามาเรียนนวดพร้อม เรียนรู้ขนมธรรมเนียมที่งดงามของไทย ร่วมทั้ง เธอชอบธรรมะ กับชีวิต จึงได้เข้ามาเรียนการนวดในวัดแห่งนี้

เธอสาวฝรั่งที่สวยมากๆ ยังกะดาราในสายตาของสมคิด หนุ่มพ่อหม้าย ซึ่งสมคิดก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอเป็นเพียงเพื่อนนักเรียนร่วมห้องเรียน

สมคิดซึ่งเรียนจบระดับ ปวช. ก็มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ อยู่บ้าง และพูดอังกฤษได้ดีกว่าคนอื่นๆ ร่วมกับความเป็นผู้ใหญ่ใจกล้า ชอบเรียนรู้ จึงถือโอกาสฝึกภาษา โดยการพูดคุยกับแหม่ม และแหม่มไม่มีเพื่อนคุย มากจึงทำให้ทั้งสองสนิทสนมกัน

จนวันเวลาผ่านไป คุยกันทุกวัน เข้าใจกัน และทั้งสองก็รักกัน

ทางด้านสมคิด หนุ่มเชียงราย ใจดี สมคิดมาสมรักกับสาวแหม่มเมืองเบียร์แล้วละ และสมคิดก็รักแหม่มมากด้วย ขาว สวย ผิวอมชมพู พูดอะไรก็ฟังหมด ตามที่สมคิดพูดจะไม่รักได้ไง ชีวิตพ่อหม้ายลูกหนึ่งมีความหวังในรักอีกครั้ง

หลังรู้จักกันได้ 4เดีอน ความรักสุขหงอม ทั้งสองจึงตัดสินใจอยู่ด้วยกัน

สมคิดผู้สมรัก ได้ภรรยาเป็นแหม่ม ที่ใครๆก็อิจฉา

ตอนที่ 3 ความรัก

ดูซิ!!!!

อยู่กันได้ไม่เท่าไหร่ แหม่มก็ตั้งครรภ์ ซะแล้ว

สมคิดนะคุณภาพจริงๆ อีกไม่นานจะได้มีลูกครึ่งหน้าตาน่ารัก ระหว่างหนุ่มไทยคนเหนือ กับสาวแหม่มคนสวยเมืองเบียร์เยอรมัน สมคิดอยากให้ลูกออกมาหน้าตาเหมือนแม่ ผิวสองสีได้ทั้งแม่และพ่อ เป็นลูกหญิงหรือชาย สมคิดรักทั้งนั้นเพราะลูกเกิดจากเราสองคนที่รักกัน สมคิดและแหม่ม

แหม่มนั้นอยู่ได้ไม่นาน เธอก็คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน และปรึกษากับสมคิดอยากให้ลูกไปเกิดที่เยอรมัน ไปโตไปเรียนที่นั้น เพราะลูกจะได้รับสวัสดิการการช่วยเหลือตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 18 ปี ซึ่งจะทำให้ลูกของเขาทั้งสองมีอนาคตที่ดีด้วยและยังเปิดโอกาสให้น้องดาที่จะได้ไปอยู่ต่างแดนกับพ่อในอนาคตด้วย

แหม่มจึงได้โทรคุยกับแม่ ปรึกษาแม่ว่าเธอจะพาสมคิด หนุ่มไทย พ่อของลูกในท้องย้ายกลับเยอรมันด้วย ทางแม่ยายเมืองเยอรมัน ก็ตอบตกลง เพราะที่บ้านเมืองของเขา หากอายุเกิน 18 ปี ลูกเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วสามารถตัดสินใจเองได้

การดำเนินการที่จะพาสมคิดกลับไปอยู่เยอรมันของแหม่ม นั้นยุ่งยากมาก เพราะช่วงนี้แหม่มไม่ได้ทำงานแล้วยุ่งยากในการการันตีให้สมคิดย้ายตาม

แต่ด้วยรักที่มีและแรงกำลังของรัก แหม่ได้หาทุกวิถีทางที่จะให้ทั้งสองย้ายไปเยอรมันด้วยกัน พร้อมกับกลับไปคลอดลูกที่นั้น การเดินหนังสือใช้เวลาหลายเดือน จนแหม่มท้องโตขึ้นๆ

และเธอก็ทำได้สำเร็จ “วีซ่าแต่งงาน” ผ่าน!!!

ตอนที่ 4 เยอรมันแดนไกล

ปี 2003สมคิดอายุได้ 38 รู้จักแหม่ม ปลายปีก็ได้ย้ายไปเยอรมัน

เมื่อ สมคิดเข้าได้ย้ายไปอยู่เยอรมัน ซึ่งครอบครัวของแหม่มได้ให้การต้อนรับอย่างดีตามวัฒนธรรมของฝรั่ง ลูกสาวมีสามีต่างแดนแถมท้องโตอีกซะด้วย รอรับขวัญหลานกันดีกว่า

ทางด้านสมคิด เมื่อย้ายมาอยู่เยอรมัน หลายอย่างที่เป็นปัญหา ในการอยู่ต่างแดนที่ต้องเรียนรู้และปรับตัว

การงานยังไม่มี การเงินยังใช้เงินเดิม การซื้อข้าวของมากินมาใช้ของแพงกว่าเมืองไทยเป็นสิบเท่า จะกินจะอยู่อะไรก็คิด จะหยิบจะจับอะไร สมคิดก็คิดเทียบราคาเงินปรับทันที ไหนจะเรื่องอาหารการกินไทย ที่ขึ้นเครื่องบินมาราคาอัพขึ้นจนน่าตกใจ ทั้งสองจึงใช้จ่ายอย่างประหยัด

ดีนะ!!!ที่เรื่องเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวบางอย่างสมคิดและแหม่ได้ส่งมาทางเรืองบางส่วนจึงทำให้ประหยัดขึ้น

และสิ่งที่เป็นปัญหาสุดๆคือ การสื่อสาร เพราะคนเยอรมัน ไม่มากที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ หากไปตามตลาด ตามชุมชนบางที่ แทบจะไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษเลย ทั้งภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ออกเสียงยากมาก และหากไม่ได้ภาษาเป็นเรื่องยากที่จะหางานทำได้

ไม่ถึงสองเดือนสมคิดก็ได้ไปเรียนภาษาเยอรมันเบื้องต้น เพื่อจะให้ได้อ่านออกเขียนได้ ลูกผู้ชาย ไทย มาแล้วต้องสู้เพื่อลูกเพื่อเมีย

ในโรงเรียนภาษานั้น สมคิดดีใจมาก ที่ไม่มีแค่สมคิดที่ไปเรียน ที่โรงเรียน มีเพื่อนร่วมชะตา อีกหลายคน จากหลายๆประเทศ และที่สมคิดดีใจสุดๆ คือสมคิดได้เจอเพื่อนๆย้ายถิ่นที่เป็นสาวไทยอีก 5 คน ในนั้น สมคิดได้สนิทกับสาวไทยชื่อ”เล็ก” (ผู้เล่าเรื่อง) เนื่องจากเล็กเป็นสาวไทบ้านเดียวกัน คนเจียงฮาย พูดอะไร ก็เข้าใจเตอะ เข้าใจว่า คุยอะไรก็

“ลำนักๆๆ”

เข้าใจแจ้งได้อารมณ์และสนุกกว่าคุยเยอรมันเยอะ

ตอนที่ 5 สุกรัก สุขรัก

ในขณะที่ไปโรงเรียนนั้นสมคิดได้เรียนด้วยความขยันขันแข็ง ใจสู้ไม่ถอยและสมคิดเป็นนักเรียนขยัน เรียนเก่ง โดดเด่นที่สุดของห้อง และในขณะนั้นได้รอเรื่องขอแต่งงานกับรัฐบาลด้วย

3 เดือนหลังเข้ามาอาศัยอยู่เยอรมันรัฐอนุมัติให้แต่งงานกันได้

ไม่นานจะถึงวันแต่งงานซะที วันที่รอคอยของสมคิด

และในงานนั้นที่ขาดไม่ได้ สมคิดได้เชิญ เล็กไว้ให้ไปเป็นเพื่อน เป็นเกียรติในวันงาน เพราะเป็นไทบ้านเดียวกัน

ปี 2004

“9 วัน” ดีเดย์ ก่อนแต่งงาน แหม่มก็ได้คลอดลูกน่าตาน่ารัก คล้ายสมคิดและคล้ายแหม่ม โดยให้ชื่อลูกว่า Maya มะยา หรือ มายา น่ารัก สมคิดรักลูกสุดหัวใจ กอด อุ้ม ลูกไม่วาง

เมื่อถึงกำหนดวันแต่งงานมาอยู่เยอรมันได้สามเดือนก็ถึงกำหนดแต่งงาน ในงานแต่งมีคนไทยเล็กคนเดียว เล็กได้รู้จักกับพ่อตาและแม่ยายของสมคิด

พ่อของแหม่มและสามีของเล็กคุยกันถูกคอมากเพราะเป็นนักยิงปืนเหมือนกัน

อั่นน่า Anna แม่ของแหม่ม เป็นคนต่างถิ่นเหมือนกัน เธอเป็นคน”อุงกาล(แขกขาว)” อั่นน่ามาอยู่เยอรมันตั้งแต่อายุ16ปี เธอมามาคนเดียว พร้อมด้วยกระเป๋าใบเดียว ดังนั้นเธอจึงเข้าใจคนย้ายถิ่นอย่างสมคิด อย่างเล็ก

มิน่าละ!! แหม่มจึงได้สวยมาก เพราะเธอเป็นลูกครึ่งอาหรับนี่เอง

ตอนที่ 6 มองสมคิดแล้วอิจฉา

สมคิดและแหม่มรักกันมาก ลูกก็น่ารัก สมคิดดูแลแหม่มและลูกดี แหม่มดูแลสมคิดดี ซึ่งตอนนี้แหม่มได้กลับไปทำงานพยายบาล เมื่อวันหยุด และ เวลาแดดออกอ่อน เขาจะพาลูกไปเดินเล่น สมคิดกระเตงลูก จูงมือแหม่ม

“อ้า!!ครอบครัวสุขสันต์”

นี่แหละความสุขของหนุ่มไทยได้เมียฝรั่ง จนใครๆที่เห็นความสุข ความหวานของครอบครัวสมคิดต่างอิจฉา ร่วมทั้งตัวเล็กด้วย

เมื่อสมคิดเห็นมายา อุ้มมายา จะพูดถึงน้องดาด้วยแทบทุกครั้ง ว่าอยากให้น้องดาได้มาดูแล ได้หอมน้อง น้องน่ารัก

ซึ่งแหม่มเองก็รู้ว่าสมคิดคิดถึงลูก ทั้งสองจึงทำเรื่องให้น้องดาย้ายมาอยู่กับพ่อที่เยอรมัน เพื่อให้สมคิดไม่ห่วงลูกมาก ทั้งยังได้มอบอนาคตที่ดีแก่ลูกดาด้วย

เมื่อสมคิดและแหม่มตกลงกันที่จะพาน้องดามาอยู่ด้วย

สมคิดได้ไปติดต่อกับแม่น้องดาเพื่อที่จะเซนยินยอมให้น้องดาติดตามพ่อมาอยู่เยอรมัน ซึ่งของแม่น้องดาก็ไม่มีปัญหาเธอตอบตกลงเซนใบยินยอม เพื่ออนาคตของลูก และสมคิดได้ให้คนดำเนินเรื่องวีซ่าดังกล่าวแก่น้องดา

ครั้งแรกที่ส่งเรื่องไปขอวีซ่าติดตามให้น้องดานั้น

วีซ่าของน้องดาไม่ผ่าน!!!!

สมคิด จำเป็นต้องหาทนายขึ้นศาลเพื่อให้สมคิด

“เป็นผู้ปกครองแต่เพียงผู้เดียว” และนำใบนี้ไปแนบในการขอวีซ่า วีซ่าติดตาม ของน้องดาจึงผ่าน

ตอนที่ 7 ยังจำได้วันนั้น

ปีนั้นในระหว่างยังเรียนอยู่เป็นคอร์ส สุดท้าย ครูบอกวันจันทร์ให้ส่งรายงานอะไรก็ได้ในหนังสือพิมพ์ก็ได้ เขียนก็ได้ ในช่วงนั้นมีข่าวสุนามิที่เมืองไทย และจุดใหญ่คือที่ภูเก็ตเป็นข่าวใหญ่ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของที่นี่ เยอรมัน เพราะเป็นข่าวสะเทือนโลกและคนเยอรมันก็นิยมไปเที่ยวภูเก็ตด้วย

วันจันทร์ทุกคนก็ส่งรายงาน มาถึงยาสาวไทย เธอยกหนังสือพิมพ์มาเลยค่ะ

ในนั้นมีรูปคนตายสี่หน้าหนังสือพิมพ์ เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนขวัญมาก

ครูบอกให้อ่านและอธิบายซิว่าอะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทย

ยา เธออธิบายไม่เป็นประสาเยอรมัน จึงส่งหนังสือพิมพ์ให้สมคิดเพราะสมคิดเป็นคนที่เก่งที่สุดของชั้น

สมคิดก็ได้แต่ทำท่า” เอ่อๆอ่าๆ อาๆๆ” อ่านเยอรมันออก อธิบายไม่ได้คนเก่งที่สุดได้แต่เป็นคนอ้ำอึ้ง

ทั้งๆที่สมคิดเป็นคนเก่งที่สุดในห้อง ทุกคนพูดพร้อมๆกันสมคิด

“เธอเป็นอะไรเป็นอะไร” สมคิดมองหน้าทุกคนแล้วพูดว่า

” ตกม้าครับ” สมคิดไปขี่ม้า และม้ากระโดดทำให้สมคิดร่วงจากหลังม้า เอาหัวไปโม่งกับต้นไม้

ทำให้เกิดอาการมึนงงและความจำเสื่อมไประยะหนึ่ง

แต่การเรียนการสอบของพวกเราก็ผ่านไปด้วยดี สิ่งสำคัญหลังเรียนจบคือการหางานทำ การหางานไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ ภาษาก็ยังไม่เก่ง พูดพื้นๆแค่นั้น วุฒิการศึกษาของที่นี่ก็ไม่มี มีแต่ของเดิมๆที่เมืองไทยก็เอามาใช้อะไรได้ไม่มาก

หากมาแล้วอยากได้งานดีๆต้องเรียนให้พูดภาษาเขาให้ได้ หากมาอยู่ตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ขยันอย่างสมคิดคงจะพูดได้เร็วปรื่อเลย แต่สมคิดมาอยู่ อายุสมคิดก็จะ 40 เมียหนึ่ง ลูกสอง จะเอาสมองที่ไหนไปเรียน จะต้องทำงาน ไม่ให้เป็นภาระของเมีย

“เฮอ!!!! สมคิดมิสเตอร์ตอนเฒ่า”

ตอนที่ 8 หนักเอาเบาสู้อีกครั้ง

เมื่องานหายาก งานอะไรที่ได้เงินสมคิดก็พยายามยามหา งานแค่ชั่วคราว ครั้งสองครั้ง วันสองวันก็ต้องทำ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น

สมคิดได้ไปสมัครงานเสริฟในร้านอาหาร อยู่สวนสนุกแห่งหนึ่ง ซึ่งสมคิดได้งานนี้

ก่อนจะเริ่มต้นทำงานทั้งแหม่นและสมคิดคิดว่าพามายาไปเมืองไทยให้ ญาติๆเห็น รวมทั้งรับน้องดาก่อน ส่วนแหม่มเธอก็ทำงาน แหม่มเป็นพยาบาล พอวีซ่าน้องดาผ่านทั้งสามคนก็ไปเมืองไทยไปรับน้องดา

ตอนนี้ครอบครัวครบสมบูรณ์แล้ว สมคิด แหม่ม น้องดา และมายา อยู่ด้วยกัน

การมาอยู่ในช่วงแรกของน้องดาวัยสิบขวบนั้น น้องดา อยู่ในช่วงปรับตัว น้องดาเหงามากไม่มีเพื่อน พูดไม่ได้ ฟังไม่ออก อะไรก็แตกต่าง ลูกร้องให้ทุกวัน สมคิดอดรนทนไม่ได้ ก็จะกระเตงลูกดาไปหาเพื่อนคนไทย ครั้งนี้ มีครอบครัวใหม่ย้ายมาอยู่ด้วยกันใหม่ ทำให้ สามี ภรรยาที่เข้าใจกัน ที่มีความสุข เกิดทะเลาะกัน และสมคิดก็หอบลูกไปเยี่ยมเพื่อนโดยที่ไม่ได้เอามายาและแหม่มไปด้วย

แหม่มคิดว่าสมคิดรักลูกกว่าเมียแหละตอนนี้

เมื่อสมคิดไม่อยู่แหม่มก็คิดมากไม่มีทางออกได้แต่ดื่ม แหม่มโทรหาเล็ก แหม่มพูดว่าเหงาและเบื่อมากดื่มไวน์อยู่คนเดียวหมดสองขวดแล้วเล็กช่วยมาดื่มเป็นเพื่อนแหม่มหน่อยนะ

เล็กได้ให้สามีขัยรถไปส่งที่บ้านของสมคิด และเล็กเห็นแหม่มดื่มอย่างเมามายคนเดียว แทบจะไม่ได้สติ

โอ้ย!!! เล็กจะทำยังไงละ หากไม่โทรหาสมคิดและบอกให้กลับมาดูเมียด่วนนะ ตอนนี้ไม่ได้สติสตังอะไร ลูกก็ร้องไห้งอแง กลับมาด่วนๆๆๆ

เล็กบอกสมคิดว่าผัวกันเมียกันทำไมไม่คุยให้เข้าใจก่อนไป อย่าดูแลลูกโดยที่ไม่บอกเหตุผล หรือทะเลาะกัน จนเมียคิดว่าลูกดามาแย่งความสุขความรักที่เคยมีต่อกันไปหมด ได้ลูกมาจะเสียเมียมันไม่ได้นะ

พอได้ยินว่าเมียแหม่มของตนเองเมาหัวราน้ำไม่ได้สติจากเล็กเท่านั้น สมคิดตัดสินใจฝากน้องดาให้เพื่อนคนไทยดูแล และวิ่งแจ้นกลับบ้านเพื่อมาดูแลเมียและลูก

“เฮอ!!!!!ปัญหาโลกแตกของคนกลางครับ”

ปวดเศียรเวียนหัว เครียดเหมือนกัน สมคิดคนกลางนั้นไม่รู้จะทำยังไง นั่นก็ลูกยังเป็นเด็ก นั่นก็เมียต้องการความรักและเอาใจใส่ ฝั่งนี้ลูกร้องไห้ทุกวัน ฝั่งนั้นปั้นปึงอารมณ์ไม่ดี

พอสมคิดกลับมาบ้านเห็นสภาพเมียแล้วละเหี่ยหัวใจ ถามเล็กว่า “จะทำยังไงละนั้นก็ลูก นี่ก็เมีย”

เล็กบอกว่า”ไป๊ไป ไปเอาใจเมียหน่อยไป้” เล็กจะดูแลมายา รอ

สมคิดไปพูดคุยพาแหม่มไปนอนพักพูดคุย พอสองคนเข้าใจกันแล้วเล็กก็กลับบ้าน นี่ละบุญที่เล็กได้ช่วยทั้งสอง เล็กจึงเป็นเพื่อนสนิทที่สมคิดไว้วางใจให้เล็กได้เล่าให้สมาชิกฟังคะ

บทที่ 9 งานงานงาน

สมคิดนั้นหลังจากกลับมาจากรับน้องดา ได้เข้าทำงานเสริฟทีร้านอาหารเล็กๆในสวนสนุก ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ชั่วโมงละแปดยูโร ถูกหักภาษแล้วเหลือที่ ห้ายูโรกว่าๆต่อชั่วโมงเทียบกับเงินไทยก็เยอะ แต่ที่นี่ไม่พอใช้ครับ ค่าใช้จ่ายนะเยอะแยะจิปาถะ ค่ากินค่าอยู่ ค่าประกัน เงินมาได้เงินก็หมดเกลี้ยงกับการกินการอยู่ ดีที่ยังมีเงินลูกสนับสนุนจากรัฐนิดหน่อย

ทำงานเสริฟอยู่ได้ไม่นานก็หางานใหม่ สมคิดได้งานประกอบรถยนต์ในบริษัทอยู่แห่งหนึ่ง รายได้ก็พอกินพอใช้อย่างประหยัด

ทำงานได้สักพัก สมคิดก็ได้ทำแหม่มก็ท้องอีกครั้ง

ระหว่างที่ท้องแหม่มได้ไปสอบเป็นครูสอนพยาบาล

เมื่อได้เป็นครูจะได้มีเวลาให้กับลูกๆ ส่วนสมคิดทำงานประกอบรถยนต์ ชนชั้นแรงงานอย่างสมคิด งานนี้ก็หนักเอาการ

ต่อมา สมคิดได้รู้จักกับเพื่อนสาว “นา”สาวไทย เธอได้เปิดร้านนวดอยู่ในเมืองนั้น เมื่อได้พูดคุยกันด้วยที่สมคิดเป็นคนใจดี ใจกว้างเอื้ออาทรคนตามนิสัยเดิมๆ ทำให้นาต้องชะตากับสมคิด นาก็รู้ว่าสมคิดเคยเรียนนวดมาและนวดเป็นด้วย นากจึงชวนให้สมคิดมาทำงานร่วมที่ร้านของตนเอง

ทำงานร่วมคือไม่ได้เป็นลูกจ้าง หากมาทำงานมีลูกค้า ก็แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เจ้าของร้าน

นี่ละงานนวดที่ต่างประเทศของสมคิดได้เริ่มแล้ว โดยได้ทำงานที่ร้านของมาดามนา

สมคิดทำงานทุกวันพอถึงวันหยุดก็ไปนวดที่ร้านของนา ทำงานดี เอาใจใส่ลูกค้า ตามนิสัยของสมคิด และมีฝีมือในการนวด จึงได้มีลูกค้ามาติดใจในฝีมือนวดและเป็นลูกค้าประจำอีกหลายคน และทั้งนั้นทั้งนี้ สมคิดได้เปิดโลกทัศน์ทางการนวด การเปิดร้านนวด เทคนิคต่างๆในการนวดจากนา ซึ่งได้ถ่ายทอดให้สมคิดได้รู้โดยไม่ได้ปิดบังซึ่งสมคิด ก็ยังระลึกและขอบคุณมาดามนาเสมอ

ตอนที่ 10 งานนวดกับสมคิด

ปี 2007 ในปีนั้น หลังจากแหม่มคลอดลูกคนที่สองเป็นชายหลังจากคลอดลูกได้สามเดือน แหม่มก็ทำงานเป็นครูสอนพยาบาล สมคิดจึงตัดสินใจเปิดนวดที่บ้าน เพื่อจะได้ช่วยแหม่มดูแลลูกที่บ้าน เมื่อเปิดร้านนวดที่บ้านทำให้บ้านที่อยู่กันพ่อแม่ลูก แคบลงถนัดใจ

ปี 2008 เมื่อลูกชายอายุได้หนึ่งขวบ ทั้งสมคิดและแหม่ม จึงคิดว่าหาบ้านใหม่น่าจะดีกว่า จะได้เปิดร้านนวดด้วย แต่บ้านหากมีหลายห้องค่าเช่าก็แพงขึ้นกว่าบ้านเดิมแน่นอน และจะทำยังไง หากไม่ทำงานหนักมากขึ้น

แหม่มไปทำงานเต็มวันเพื่อให้ได้เงินมากขึ้น และสมคิด คิดเปิดร้านและหาลูกค้าประจำให้ได้มากขึ้น เพื่อสถานภาพการเงินจะได้มั่นคง

สมคิดชายไทยได้เมียฝรั่งและอพยพ ไปอยู่ต่างแดนเมืองเยอรมัน คิด คิด คิดอยู่เสมอ อยากหาเงินได้มากๆ กึ่งสงสารชีวิตต่างด้าวของตนเอง สงสารเมียก็สงสารมาก ที่เป็นฝรั่ง มีการศึกษาดี มีงานการดี แต่มีสามีต่างด้าว

สมคิดได้แต่คิดกับตัวเองและบ่อยๆด้วย ตนเองทำงานหนักมากและทำงานแทบทั้งวัน รายได้เทียบเงินในเมืองไทยเป็นเงินบาทอาจจะเยอะ แต่เปรียบเทียบกับคนที่นี่เป็นเงินนิดเดียว ใช่สมคิดภูมิใจที่ มีงานทำ ที่หาเงินได้ แต่ เมียของสมคิด ทำงานวันละ2-3ชั่วโมงได้3เท่าของตัวเอง

“เฮอ!!!!”

สมคิดหาเงินทำงานหนักนั้น ได้เงินมาเท่าไรก็ยกให้เมียหมด เพราะแหม่มเป็นคนจัดการทุกอย่างภายในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภาษีต่างๆ ค่าประกันสุขภาพทุกคนในบ้าน ค่าปะกันรถ ค่าน้ำมัน จิปาถะอีกมากมาย ค่าใช้จ่ายก็มากโข เหมือนกัน

สมคิดได้แต่เห็นใจเมีย ที่เธอดูแลบริหารจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น เธอไม่ได้ปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว

ตอนที่ 11 ไปเยี่ยมปู่และย่า

ปี 2009 หลายปีแล้วที่สมคิดและครอบครอบไม่ได้กลับเมืองไทย ปีนี้แหม่มพอเก็บเงินได้ จากการทำงานและการเก็บออมของแหม่ม ความสงสารสามีและเห็นใจสามีที่ทำงานงกๆและไม่ได้เยี่ยมบ้าน ประจวบกับเธอก็คิดถึงเมืองไทยด้วย เธอจึงชวนสามี พาลูกๆไปเยี่ยมปู่ย่าที่เมืองไทย ซึ่งสมคิด ดีใจมากๆ เพราะคิดถึงพอแม่มานานแต่กาลเวลา เงินทองไม่เหมาะสมสักที

การไปเมืองไทยครั้งนี้ไม่ได้เหมือนกับการกลับเมืองไทยทุกครั้งที่มีเพียงสองคนผัวเมีย

ครั้งนี้ต้องกลับเมืองไทย 5 คน สมคิด แหม่ม น้องดา มายาและลูกชาย รวมแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ 2 เด็กอีก 3 แหม่มดูแลลูกชายคนเล็ก สมคิดหอบของพะรุงตุงนัง ไหนจะกระเป๋าเสื้อผ้า ของฝาก รถเข็ญ ขาดไม่ได้คือกล้องถ่ายรูป ของเยอะแยะเต็มรถเข็ญ ลูกก็กระจองอแง อุ้มลูกจูงกระเป๋า มาเป็นสายเลย

“ยุ่งๆๆๆๆ!!!”

ทั้งยังเสียค่าตั๋วเครื่องบนอีก เป็นเงินเก็บจำนวนไม่น้อยเลย รวมๆค่าตั๋วก็ห้าคนก็เฉียดสองแสนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะ เงินที่เก็บอดออมจำนวนเยอะก็เอามาใช้ในการเยี่ยมบ้านในครั้งนี้ มาด้วยกันหลายคนเยี่ยมบ้านหนึ่งที่อดกินของดีๆ ซื้อเสื้อผ้าไปไปหลายปีเชียวนะ

เมื่อไปถึงบ้านพ่อแม่พี่น้องของสมคิดดีใจที่สมคิดพาลูกๆไปเยี่ยม ทุกคนดีใจมากและให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข

ตอนที่ 12 ถูกขโมยของ

ด้วยความดีใจที่ได้มาถึงบ้าน สมคิดเดินเข้าบ้านและได้ทิ้งข้าวของไว้ในรถกะบะ และที่สำคัญคือไม่ได้ล็อคประตูรถ ด้วยเดินอุ้มลูกเข้าบ้านแบบไม่ได้ดูข้าวของ ก็ลูกตั้ง 3 คน เอาคนก่อนค่อยเอาของ เมื่อเอาคนไปไว้ในบ้าน ทักทายญาติเสร็จแลละกลับมาเอาของที่รถ

ช่างเป็นโชคร้ายของสมคิดจริงๆ!!!!

มีคนขโมยข้าวของมีค่าทั้งหมดไป

สมคิด ดูของที่รถ ไม่พบ กลับไปถามแหม่ม ถามญาติว่าใครเห็นของเขาไหม ไม่มีใครเห็น

ฮา!!!!ของหายไปทั้งหมด

ทั้งแหม่มทั้งสมคิดแทบช็อค เพราะของที่ถูกขโมยเป็นของมีค่า และของมีคุณค่า หลายรายการ บัตรต่างๆ บัตรเครดิต พาสปอร์ตของทุกคน กล้องถ่ายรูป และของสำคัญอื่นๆ อีกหลายรายการ ได้หายไปหมด

สิ่งนี้เกิดขึ้น เพราะสมคิดเผลอเลอ ลืมคิดไปว่า สิ่งแวดล้อมที่บ้านเรา มันเปลี่ยนไป ไม่ได้ปลอดภัยเหมือนแต่ก่อน และการที่สมคิดไปกับฝรั่ง กลับมาจากเมืองนอก ทำให้คนคิดว่าสมคิดรวย เขาไม่ได้คิดว่าสมคิดหาเงินได้ต้องกินต้องอยู่ ทั้งยังจ่ายค่าต่างๆของเด็กด้วย รัฐให้ก็ค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ ไม่พอหรอก เขาคงไม่รู้ หรืออยากได้ของจากเมืองนอกนะแหละ จึงได้มาขโมยของไป

การเดินทางในครั้งนี้ สมคิดและครอบครัวเดินทางแบบไม่ได้ทำประกันการท่องเที่ยว

ซึ่งหากทำประกันการท่องเที่ยว เมื่อของสูญหาย หรือมีค่าใช่จ่ายในการทำเอกสาร เขาจะได้เงินคืนมาบางส่วนจากประกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เงินสดที่หายไปกลับก็ตาม ในครั้งนี้สมคิดได้สูญเสียข้าวของทั้งหมดและยุ่งยากในการทำเอกสารมาก หลายวันหลายขั้นตอน เงินก็หมด เวลาพักผ่อน ก็หมด

ตอนที่ 12 โกรธคนไทยทั้งโลก

เหตุการณ์นี้ ทำให้สมคิด แหม่มต้องไปแจ้งความตำรวจ เพื่อทำเอกสารใหม่ และทำพาสใหม่และใช้เวลามาก การไปท่องเที่ยวในครั้งนี้ จึงไม่ได้พักผ่อนใดๆ ทุกคนยุ่งยาก ทุกคนไม่มีความสุข ลูกเล็กๆก็ป่วยด้วยอากาศร้อนและการปรับตัว ร้องไห้กระจองอแง ทั้งครอบครัวไม่มีความสุขเลย มีแต่ความยุ่งยาก สมคิดเองก็ไม่มีความสุข ได้พบญาติ แต่เสียทรัพย์ และเสียใจ กลับบ้านด้วยความเหนื่อยใจ ไม่ได้สดชื่นใดๆเลย

หลังกลับจากเมืองไทยในครั้งนี้ และการที่มีขโมยมาขโมยข้าวของสูญหาย เสียทรัพย์ ยุ่งยากในครั้งนี้ ทำให้แหม่มเครียด พาลโกรธคนไทยทั้งโลก

ทำให้แหม่มโกรธและเสียใจเป็นอย่างมาก กับการกระทำของคนไทยใจร้ายคนนั้น ของทุกอย่างที่เป็นของสำคัญทุกอย่างหายไปสิ้น เจ้าขี้ขโมยคนนั้น ได้ขโมยหัวใจและจิตวิญญาณแห่งความรัก ที่เต็มสุขในครอบครัวของสมคิดไปด้วย

สถานภาพคนในบ้านทั้งสองต่างดูหงอยเหงา ของทุกอย่างที่เป็นของสำคัญทุกอย่างหายไปสิ้น ความเสียใจ ความเครียดถ่าโถมเข้ามาในครอบครัว เจ้าขี้ขโมยคนนั้น ได้ขโมยหัวใจและจิตวิญญาณแห่งความรัก ที่เต็มสุขในครอบครัวของสมคิดไปด้วย

ตัวแหม่มเอง ที่เคยเป็นคนธรรมะ ธัมโม จิตใจอารีย์ ต้อนรับคนไทย เพื่อนๆของสมคิดอย่างดีทุกครั้ง แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไป โกรธง่าย เครียดหนัก ไม่มีอารมณ์สุนทรียะ อีกแล้ว

แหม่มไม่ต้อนรับคนไทย ใครเป็นคนไทยเธอไม่ต้อนรับใครสักคน พาลพาโล โมโหไปหมด

ทุกข์ใจ !!!

ตอนที่ 13 เอ้อน้อ!!!

หลังกลับมาจากไปเยี่ยมเมืองไทย

สถานการณ์ในบ้านก็ไม่เหมือนแต่ก่อน แหม่มดูเครียดๆไม่สดชื่น คงจะหัวเสียจากการสูญเสียของที่เมืองไทยนั้น ทั้งยังต้องทำงานเพิ่มเพิ่มรายได้อีก ร่วมทั้งทางสมคิดก็เครียดเช่นกันที่ของหาย ต้องเร่งหายรายได้เพื่อกินเก็บใช้อีก

สถานภาพในครอบครัวไม่สวีทหวานแหว่วเช่นแต่ก่อน

จอน ชายเยอรมัน ที่เคยเป็นแฟนเก่าของแหม่มก่อนที่แหม่มจะไปเจอสมคิดที่เมืองไทย เขาได้เข้ามาเยี่ยมแหม่มในจังหวะนี้พอดี

ร้อยทีปีหนจอนไม่เคยมาเยี่ยม แต่ช่วงนี้ครอบครัวมีปัญหา จอนเขาก็เข้ามาพอดี

แหม่มได้เล่าว่าตัวเองไปเที่ยวไทย พร้อมกับลูกๆและสมคิด ทั้งยังถูกคนไทยที่ตนเองคิดว่าเป็นคนดี มีน้ำใจมีคุณธรรม ขโมยของไป แหม่มไม่อยากเชื่อเลยว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น รวมทั้งเงินทองที่หามาสะสมได้ ก็หมดเกลี้ยงจากการพาลูกๆและสามีไปเยี่ยมพ่อแม่ของสมคิดในครั้งนี้

ทั้งยังบ่นเรื่องปัญหาต่างๆให้จอนฟัง เขาก็รับฟังด้วยความห่วงใย แหม่ม

หลังจากมาครั้งนั้น จอนได้เที่ยวมาเยี่ยม แหม่ม มาปลอบใจ ว่าอย่าคิดมาก ซื้อนั่นซื้อนี่ติดมือมา และมาเยี่ยมแทบทุกวัน

ทั้งที่แหม่มก็มีสามีแล้ว

สามีแหม่มก็อยู่ในบ้านเดียวกัน

แล้วมันจะมาเยี่ยมอะไรของมันนักหนา!!

นี่แหละประเพณีฝรั่ง หลังเลิกรากัน ส่วนมากยังรักษามิตรภาพของความเป็นเพื่อนกันไปมาหาสู่ กัน ติดต่อสื่อสารกัน

และสมคิดสามีของแหม่ม ที่เป็นคนไทยเขาก็ไม่สบายใจนัก

ตอนที่ 14 ชีวิตรักและครอบครัว

หลังจากสมคิดกลับมาจากเมืองไทย ปัญหาการถูกขโมยในครั้งนั้น ทำให้สมคิดต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อทดแทนสิ่งที่หายไป

สิ่งที่หายไปนั้นไม่ใช่แค่เงิน แต่มันเป็นขวัญกำลังใจ และความอบอุ่นในครอบครัวด้วย ทั้งเกียรติของลูกผู้ชายดังสมคิดอีกต่างหาก แต่เป็นผู้ชายย้ายถิ่นตามเมีย ที่ทำงานหนัก แต่ได้เงินน้อยกว่าเมีย ทำงานทั้งวัน แต่ได้เงิน้อยกว่าเมีย พูดภาษาได้ แต่ไม่กระจ่างชัดเหมือนภาษาแม่ หรือภาษาเมียพูดได้ไม่ดีเหมือนภาษาแม่

สมคิดได้หยุดงานจากร้านเพื่อนสาวผู้ปราณีอย่างสิ้นเชิง หันมาทำงานที่บ้านเปิดร้านอย่างเต็มตัว มาเปิดร้านนวดที่บ้านอย่างเต็มตัว ลูกค้าค้าประจำและลูกค้าผ่านมาเยอะมาก จนสมคิดแทบไม่มีเวลาเป็นของตนเองเลย ตั้งแต่เปิดร้านจนถึงเวลาปิดร้าน ในเวลากลางวัน งานหนัก กลางคืนเหรอ สมคิดจะไม่หลับเป็นหมีตายแทบทุกคืน

ทั้งลูกๆสามคนก็เยอะ ไหนจะงานหาเงินช่วยครอบครัว ตั้งรากฐานของครอบครัว ไหนจะงานดูแลลูกทั้งสามที่กำลังเป็นลิงซน รู้แต่กินๆๆ แต่ไม่รู้จักทำงาน ลูกของสมคิตหน้าตาน่ารัก นี่แหละคือขวัญกำลังใจของสมคิดให้อดทน

พ่อทำเพื่อลูก

และสมคิดทำเพื่อเมีย ทำเพื่อแหม่ม ทำเพื่อความรักของเราสอง

แหม่มและสมคิด

  • ตอนที่ 15 รักเรา

แหม่มไปทำงานนอกบ้านและกาเงินเข้าบ้านตามปกติ

น้องดาไปโรงเรียนและช่วยดูแลน้องๆเมื่อกลับจากโรงเรียน

ลูกๆรักกันดี ทั้งแหม่มก็รักน้องดาดีด้วย เพราะน้องดาช่วยแหม่มในการดูแลน้องๆ ทำให้แหม่มเบาแรง และสมคิดด้วยเบาแรง

แต่งานหนักๆอย่างนี้ทุกวัน ยุ่งๆอย่างนี้ทุกวัน นอนหลับสบายหลังเลิกงงานทุกวัน

เวลาการไปเดินเล่น พร้อมกันกับครอบครัวน้อยลง เวลา โรมานซ์ ที่น่าอิจฉาหายไป กลายมาเป็นเวลาที่ทำเพื่อครอบครัวและสร้างรกฐานของครอบครัวมากขึ้น

นี่แหละชีวิตรักที่ตามกันในตอนต้น

ตอนนี้กลายเป็นเวลาสร้างรากฐานของครอบครัวแหละในตอนกลาง

ชีวิตที่เล็กและเพื่อนคนไทยที่เคยอิจฉาความสุข

ตอนนี้ก้มหน้าก้มตานวด นวด นวด หาเงินเท่านั้น

เวลาที่เคยให้แหม่ม ก็หมดไปกับเวลาทำงาน เวลานวด และเวลาไปรับลูกที่ โรงเรียน

วันเสาร์อาทิตย์ที่เคยไปนั่นมานี่ด้วยกันกลายเป็นเวลาทำงาน ที่ลูกค้าจองมา ทำๆๆจนสมคิดแทบจะไม่ว่าง

เพราะเงินตัวเดียว

เพื่อครอบครัวเท่านั้น

เพราะลูกๆกำลังกินกำลังนอน

เพราะสมคิดเป็นคนต่างด้าวท้าวต่างเมือง ต้องทำงานหนักจึงมีเงินพอกินพออยู่

ดังนั้น เวลาที่เป็นของครอบครัว เวลาที่สมคิดให้แก่แหม่มในการออกไปข้างนอกด้วยกัน ดื่มกาแฟ ไปเดินห้าง ไปชอปด้วยกัน เวลาไปจูงมือกันในสวนสาธารณะก็หายไป

สมคิดไม่มีเวลาโรมานซ์ ให้กับแหม่มเลย

ส่วนแหม่มนั้นยังติดต่อเป็นเพื่อนสนิทกับจอน อดีตแฟนเก่าเรื่อยมา ไปมาหาสู่บ้างเป็นบางครั้ง

ตอนที่ 16 โอ้ย!!!เจ็บ

แต่ทั้งจอนและแหม่มได้พบปะกัน ดื่มกาแฟกันนอกบ้านมากกว่า เพราะแหม่มทำงาน และง่ายสะดวกที่จะคุยกันมากกว่าเข้ามาคุยกันในบ้าน ไหนจะลูกสามคน และไหนจะสามีอยู่ที่บ้าน

จนเวลาผ่านไปได้หนึ่งปีเต็ม

แหม่มได้พูดกับสมคิดว่า

“เราคงไปกันได้ไม่รอดแน่”

“เราควรเลิกกัน“

สมคิดรู้สึกใจหาย ว้าบ!!! เมื่อได้ยินเมียฝรั่งพูดคำนี้ออกมา

“เราเลิกกันเถอะ” สมคิด ตอนนั้น ตอนนี้ความคิด ไม่สมคิดเสียแล้ว เมียฝรั่ง พูดตรงเหมือนอย่างที่เธอคิด เธออยากหย่ากับสมคิด ทั้งที่มีลูกด้วยกันสองคนและอยู่ในวัยเยาว์ อยู่ในวัยที่ทั้งพ่อและแม่ต้องอยู่ด้วยกันลูกวันนี้ต้องการความอบอุ่นจากทั้งพ่อและแม่ ไม่ใช่จากแม่ หรือจากพ่อ

สมคิดไม่อยากหย่า เพราะสมคิดรักแหม่มมาก

แต่แหม่มอยากหย่า เพราะแหม่มสูญสิ้นความพิศวาสกับคนไทยและสมคิดผู้เป็นสามี เสียแล้วจนหมดสิ้น

สาวฝรั่งไม่อดทนจะอยู่กับคนที่ตนไม่รัก

สาวฝรั่งน้อยรายที่ไม่พอใจไม่มีความสุขแต่อดทนอยู่กับสามีเพื่อลูก น้อยมากๆจริงๆ

นี่คือธรรมเนียมของฝรั่ง แต่ไม่ใช่ธรรมเนียมไทย ที่พ่อแม่ ปู่ย่าสอนเสมอ อดเอาๆ เพื่อลูก แต่ฝรั่ง พูดเลิกๆหากไม่มีความสุข

แล้วสมคิดจะทำยังไงละ เมื่อเมียฝรั่งต้องการหย่า!!!

มีทางเดียวก็คือหย่า!!! แล้วสมคิดจะทำยังไง

คิดอยู่หลายวัน สอบถามเมียรักหลายรอบ เพื่อให้ปรับให้อยู่ด้วยกันให้ได้ แต่เมียฝรั่งยอดรัก บอกได้คำเดียวว่า

”ไม่ ไม่ ไม่!!!”

สมคิดเคว้งคว้างและน้ำตาของลูกผู้ชายไทยในต่างแดนไหล อั๊กๆๆๆ!!! เข้าไปในอก

ตอนที่17 ชีวิตของมิสเตอร์

เมียรักยังบอกสมคิดอีก

“ฉันต้องการอยู่ในบ้านนี้และให้เธออกไปจากบ้านนะ”

สมคิดต้องออกจากบ้าน ที่เคยมีลูกมีเมีย เริ่มจากที่มีคนอิจฉา มาถึงตอนนี้มีแต่คนสงสาร

นี่แหละ!!!ชีวิตของสมคิด

มิสเตอร์สมคิด คนนั้นคนที่มีเมียสวย มีลูกน่ารัก

ตอนนี้นายสมคิดต้องออกจากบ้าน

ทั้งแหม่มและสมคิดได้ตกลงกัน ว่า ให้สมคิดออกจากบ้าน และแหม่มจะอยู่ที่บ้านหลังเดิมกับลูกๆ รวมทั้งน้องดาด้วย เพื่อให้น้องดาจะได้ช่วยแหม่ดูแลน้องๆ ซึ่งสมคิดก็ยินยอม เพราะเธอ อดีตเมียรัก ผู้รับผิดชอบ ไม่เคยปริปาก แต่เมื่อเธอปริปากคือเธอต้องการหย่า สมคิดจำเป็นต้องยอมรับ

ชีวิตที่หย่าแล้ว หนึ่งครั้งที่เมืองไทยก่อนได้แฟนฝรั่ง

ตอนนี้ต้องมาหย่ากับเมียฝรั่งอีก

หัวใจและจิตใจที่เจ็บแล้วเจ็บเล่า

น้ำตาลูกผู้ชายที่เคยเป็นต่างด้าวในเยอรมัน มันไหลเป็น

คุณเห็นไหม!!

ชีวิตมิสเตอร์สมคิด ได้สิ้นสุดลง เมื่อทั้งสองตกลงหย่าร้างทางกฎหมายกันเหลือแต่นายสมคิด พ่อม่าย เมียไม่ตายแต่ขอหย่า ในชีวิตแต่งงาน หย่าแล้วก็หย่าอีกถึงสองครั้งมันช่างยุ่งยากใจหลายอึดอัด อึดแน่น อัดอก

สมคิดนั้นได้คิดเรื่องลูกทั้งสามของเขา มากแต่จำเป็นต้องยอมรับให้อดีตเมียแหม่มดูแล เพราะตัวเองเป็นเพียงแต่หนุ่มต่างด้าวและเป็นท้าวต่างแดน เท่านั้น

สมคิดก้มหน้ายอมรับชะตาและกรรมกำหนด เขาขนเพียงของใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์การนวดไปหาเช่าบ้านใหม่และเพื่อที่จะทำงานต่อไป

ตอนที่ 18 ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นไป

หลังจากสมคิดได้เลิกร้างกับแหม่ม

สมคิดก็ได้ไปมาหาสู่เพื่อดูแลลูก บางวัน บางวันก็งานยุ่ง

อยู่มาไม่นาน แหม่มได้แต่งงานกับจอน และทั้งสองได้ ไปซื้อบ้านใหม่ และย้ายออกจากบ้านเดิม ซึ่งในการย้ายครั้งนี้ น้องดา ก็ยังติดตามแหม่มไปด้วย เพื่อช่วยดูแลน้องๆ ซึ่งหมายถึง จอนแต่งงานกับแหม่มและได้ลูกของแหม่มอีกสองคน และแถมมาอีกหนึ่งคือน้องดา ซึ่งฝรั่ง หากเขารักเขาจะไม่ถือเรื่องลูกเก่าลูกเดิม

สมคิด็ไม่ค่อยติดต่อกลับไปหาแหม่มและลูกมากนัก เพราะ เขาเป็นคนโสดและยังไม่มีเมียใหม่ ยังไม่มีสาวใดเข้ามาแทนพื้นที่ในใจที่เคยมีแหม่ม ไม่ใช่สมคิดไม่รักลูก แต่สมคิด ไม่อยากให้แหม่มี ปัญหาครอบครัวกับสามี หรือเกิดการหึงหวงขึ้น และรวมทั้งเล็กด้วย สมคิดก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาบ่อยนัก เพราะกลัวว่าสามีของเล็กจะหึงหวง เช่นกัน

สัมพันธภาพของคำว่าเพื่อนของเล็กและสมคิด ถึงจะนานๆติดต่อกันที คุยกันที แต่มันไม่ได้ขาดหาย ความระลึกนึกถึงยังอยู่ไม่ลาย นานๆ ทั้งสองจะติดต่อคุยกันสักครั้ง

เมื่องานวัดไทยปีนี้ เล็กได้เห็นแหม่มพร้อมกับจอนและลูกทั้งสามคน พร้อมกับมีรถเข็ญเด็กอีกหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้แหม่มมีลูกเพิ่มอีกหนึ่งคน

เล็กได้เข้าไปถามสารทุกข์สุขดิบของแหม่ม แหม่มบอกว่าเธอมีความสุขดี และยังคิดถึงเมืองไทย ยังอยากให้ลูกๆรู้จักวัฒนธรรมไทย ถึงแม้ว่าเธอและลูกไม่ได้กลับเมืองไทยก็ตาม ตอนนี้ลูกของเธออายุได้สามเดือน หน้าตาฝรั่งๆ เพราะพ่อและแม่เป็นฝรั่ง

ไม่นานที่ผ่านมา น้องดาอายุ 18 ปีเธอเรียนจบและมีงานทำ งานนั้นไม่ไกลจากบ้านสมคิดนัก เอจึงย้ายเข้ามาร่วมชายคากับสมคิดผู้เป็นพ่อ

ถึงเรื่องราวไม่จบลงอย่างสวยงาม แต่ความรัก ความทรงจำยังสวยงาม

สมคิดในปัจจุบัน ยังไม่แต่งงานใหม่ ถึงแม้จะมีสาวไทย หมอสาวหลายคนอยากมาช่วยในงานนวดด้วย แต่สมคิดไม่สนใจ เพราะอะไรเล็กไม่รู้

แต่มันอาจจะ มาจาก สมคิดได้กินข้าวขาวแล้วเลยไม่อยากกินข้าวเหลืองหรือข้าวดำก็เป็นไปได้

ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นไป

เล็ก แอดมิน และสมาชิกแฟนคลับของสมคิดขออวยพรให้


 
 
 

Comments


คลิกดูเรื่องน่าอ่าน
Tag Cloud

ขออภัยกำลังอยู่ใน

ขั้นตอนทำเวปเพจคะ

 ThaiMadam's story

© 2014 by The Book of  Lover "Thai madamstory" Proudly created with Wix.com

  • Facebook B&W
  • Twitter B&W
  • Google+ B&W
bottom of page