top of page

"สึนามี "

  • madamthaithai
  • Nov 1, 2014
  • 2 min read

"สึนามี " เธอเป็นคนหนึ่ง ที่อยู่ในเหตุการณ์ สึนามิ แม้วันที่ฝันร้ายนั้นนะผ่านมานาน แต่มันยังตราตรึงอยู่ในดวงจิต เหมือนมันได้เกิดขึ้นเมื่อวาน มาติดตามการเล่าเหตุการณ์จริงโดยมาดามฮอลแลนด์

คลื่นสึนามิ (ญี่ปุ่น: 津波 tsunami สึนะมิ, "คลื่นที่ท่าเรือ" หรือ "คลื่นชายฝั่ง" ?) เป็นกลุ่มคลื่นน้ำที่เกิดขึ้นจากการย้ายที่ของปริมาตรน้ำก้อนใหญ่ คือ มหาสมุทรหรือทะเลสาบขนาดใหญ่ แผ่นดินไหว การปะทุของภูเขาไฟและการระเบิดใต้น้ำอื่น (รวมทั้งการจุดระเบิดวัตถุระเบิดนิวเคลียร์ใต้น้ำ) ดินถล่ม ธารน้ำแข็งไถล อุกกาบาตตกและการรบกวนอื่น ไม่ว่าเหนือหรือใต้น้ำ ล้วนอาจก่อให้เกิดเป็นคลื่นสึนามิได้ทั้งสิ้น[1] คลื่นสึนามิไม่เหมือนกับคลื่นทะเล(tidal wave)ตามปกติ เพราะมีความยาวคลื่นยาวกว่ามาก แทนที่จะเป็นคลื่นหัวแตก (breaking wave) ตามปกติ คลื่นสึนามิเริ่มแรกอาจดูเหมือนกับว่าคลื่นน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และด้วยเหตุนี้ คลื่นสึนามิจึงมักเรียกว่าเป็นคลื่นยักษ์ โดยทั่วไป คลื่นสึนามิประกอบด้วยกลุ่มคลื่นซึ่งมีคาบเป็นนาทีหรืออาจมากถึงชั่วโมง มากันเรียกว่าเป็น "คลื่นขบวน" (wave train)[2] ความสูงของคลื่นหลายสิบเมตรนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์ขนาดใหญ่ แม้ผลกระทบของคลื่นสึนามินั้นจะจำกัดอยู่แค่พื้นที่ชายฝั่ง แต่อำนาจทำลายล้างของมันสามารถมีได้ใหญ่หลวงและสามารถมีผลกระทบต่อทั้งแอ่งมหาสมุทร คลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 เป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 คน ใน 14 ประเทศที่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย

September 6, 2014 at 5:49pm · Like · 8

Sathita Netrawong •เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. คลื่นสึนามิได้เริ่มเคลื่อนตัวมายังชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรมลายู ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ ๕๐๐ - ๖๐๐ กิโลเมตร ก่อให้เกิดความเสียหาย ในบริเวณชายฝั่งตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ของไทย มีผู้เสียชีวิตที่เกาะปีนังในประเทศมาเลเซีย ประมาณ ๗๐ คน และใน ๖ จังหวัดภาคใต้ของไทย คือ จังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง รวมกัน ประมาณ ๕,๔๐๐ คน

September 6, 2014 at 5:49pm · Like · 9

Sathita Netrawong ติดตามให้กำลังใจเธอคะ กดไลค์ให้กำลังเธอด้วยคะ

September 6, 2014 at 5:50pm · Like · 2

Remove

Sathita Netrawong รอหน่อยนะเจ้าของกำลังแก้ไขคำตกคะ รอรอรอรอ เหมือนกัน

September 6, 2014 at 6:28pm · Like · 3

Veerman Mel สึนามี 26 ธันวาคม 2547 ฉันก็เป็นอีกคนที่อยู่ในเหตุการในวันนั้นด้วย มันเป็นฝันร้ายที่ตรึงใจเท่าทุกวันนี้เลยค่ะ วันนั้นเราไปฮอลิเดกันกับสามีและเพื่อนอีกคู่ที่ป่าตอง ภูเกต วันนั้นได้แยกทางกันกับเพื่อน เพื่อนจะเข้าเมืองฉันกับสามีตั้งใจไปหาดกัน ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดประมาณ7 โมงเช้าสามีมาปลุกเพราะเพื่อนเขาจะออกไปกันแล้ว ฉันก็ถามสามีว่าเธอได้นัดกินอาหารเช้ากันไหม สามีบอกว่าไม่ได้นัด ฉันก็บอกสามีว่า ขอฉันนอนต่ออีกนิดได้ไหมเพราะเมื่อคืนฉันฝันว่าฉันวิ่งหนีคลื่นยักษ์พายุโทนาโดทั้งคืนฉันเหนื่อยมาก สามีก็บอกว่าโอเคงั้นเธอนอนต่อเถอะ ฉันพูดทั้งๆที่ตาก็ปิดหลับต่อแล้วสามีก็เดินไปเช้าห้องน้ำช่วงที่ตาฉันปิดลงมีความรู้สึงว่าเหมือนมีคนมาจับขาเรายกขึ้นหัวทิ่มลงแล้ว เขย่าๆรู้สึกเมา แต่ไม่คิดอะไรจนสามีวิ่งออกมาจากห้องน้ำแล้วถามว่าแผ่นดินไหวเหรอ ไอ้เราก็ตอบด้วยท่าทางงัวเงียว่า เธอจะบ้าเหรอแผ่นดิคจะมาไหวอะไรทางไต้ฉันไม่เคยได้ยินถ้าเป็นทางเหนือน่ะเป็นไปได้แต่ทางไต้ไม่มีแน่นอน สามีก็ยังเถียงว่าใช่แน่นอนแผ่นดินไหว ฉันบอกว่าคงอาจจะเป็นลมพัดแรงจนตึกสั่นล่ะมั้ง คุณเธอก็วิ่งออกๆปดูที่ระเบียง และวิ่งกลับมาบอกว่าไม่มีลมเลยนะจริงๆแผ่นดินไหว หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จเตรียมของจะลงไปนอนหน้าหาดป่าตองกันเสร็จ

September 6, 2014 at 6:33pm · Like · 21

Veerman Mel ก็พากันเดินไปกินอาหารเช้าก่อน ไปนั่งแล้วสั่งกาแฟขนมปังร้านประจำช่วงที่นั่งรอขนมปังก็เห็นผู้คนทำท่าแปลกๆที่หน้าหาด ก็เลยร้องถามเจ้าของร้าน พี่ๆเขามงดูอะไรกันเหรอ ไม่รู้เหมือนกันเห็นเขาบอกว่าทะเลเปลี่ยนสี เปลี่ยนสียังไงเหรอคะพี่ เปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีดำหมดเลย พี่เขาก็ยุ่งไม่ว่างจะคุย ฉันก็นั่งรอและดูผู้คนที่มีทีท่าตื่นๆอยู่บ้าง บางคนก็บอกท่าไม่ดีแล้วนะ พอดีเราทำท่าสงสัยมากสามีก็บอกเดี๋ยวฉันจะไปดูให้สามีเดินออกจากร้านได้สามสี่ก้าวเขาต้องหยุดยืนอยู่กับที่เพราะผู้คนได้วิ่งแตกตื่นกันโกลาหลขึ้นมาเขาร้องตะโกนบอกฉัน ที่รักวิ่ง อีฉันก็ตกพะวง งงงวยกับเหตุการพอได้สติคว้าได้เป้สามมีและเป้ของตัวเองสองข้างมือวิ่งออกจากร้านอาหารปากก็เรียกสามีทำไมเธอไม่วิ่งมา วิ่งมาสิเร็วๆฉันวิ่งออกไปและวิ่งข้ามถนนไปได้แล้วแต่สามียังมาไม่ถึงฉันเลย ฉันหยุดรอสามีทั้งๆที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาพากันวิ่งหนีอะไรกันขณะที่ยืนรอสามีปากก็ร้องเรียกหาสามีกำลังจะวิ่งกลับข้ามถนนไปหาสามีก้มดูที่เท้าน้ำมาได้ไงนี่ พอเงิยหน้าขึ้นก็แทบช็อคนั่นมันอะไรกันทั้งเก้าอี้ทั้งร่มอยู่ปลายต้นสน พอได้สติอีกรอบสามีก็มาถึงตัวแล้ว สามีบอกถอดรองเท้าออกแล้ววิ่งฉันก็บอกเธอนั่นแหล่ะที่ต้องถอดเชื่อไหมเขาถอดรองเท้ามือถือแค่รองเท้าคู่เดียวแต่เขาวิ่งไม่ออก

September 6, 2014 at 6:35pm · Like · 19

Veerman Mel อีฉันมือสองข้างถือเป้สองใบหนักๆได้สติอีกรอบคว้าเอาแขนสามีแล้วก็วิ่งแบบไม่เหลียวหลังปากก็ร้องบอกผู้คนที่กำลังเดินและขี่รถไปหน้าหาดว่า อย่าไปๆคลื่นยักษ์ๆ วิ่งมาจนถึงถนนอีกเส้นหนึ่งปากก็ร้องบอกผู้คนทั้งไทยทั้งฝรั่ง ผู้คนที่ไม่รู้เขาก็คงคิดว่าอีนี่มันบ้าหรือไม่ก็ทะเลาะกับผัวแน่นอน เขาก็ไม่สนใจยังเดินลงไปหาดอีก วิ่งๆมาอีกก็เจอฝรั่งอีกคู่จะลงไปหาดฉันก็ไปคว้าแขนเขาไว้แล้วบอกว่าอย่าไปๆฝรั่งผู้ชายงงเลยถามสามีฉัน สามีก็บอกว่ามีคลื่นยักษ์เขาก็พาแฟนวิ่งหนีขึ้นเขาไปเขาคงรอดล่ะคู่นี้ ฉันพาสามีวิ่งไปที่โรงแรมที่พักแล้วเล่าให้ฟังพี่ที่โรงแรมบอกให้วิ่งขึ้นเขา พี่เขาอยู่ทางไหน ก็บอกสามีเราต้องขึ้นเขาจับแขนกันวิ่งๆมือก็โทรหาน้า โทรหาเพื่อน พอวิ่งมาถึงตีนเขาหมดแรงคานขึ้นเขาทั้งคนทั้งรถ ปากก็บอกสามีฉันไม่ไหวแล้ว สามีบอกอดทนอีกนิดใกล้จะถึงแล้ว พอขึ้นไปถึงบนเขาฉันโผลเข้ากอดสามีเรารอดตายหรือยังที่รัก สามีบอกว่าขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน และขอบคุณความฝันของเธอที่ช่วยพวกเราไว้ ไม่งั้นพวกเราก็ได้ลงหาดไปแล้วคงวิ่งหนีไมาทันแน่ ทำไมเธอฝันแม่นอย่างนั้น ฉันบอกว่าฉันคิดว่าคุณตาของฉันมาเตือนฉันมากกว่าเพราะคุณตาจะคอยดูแลฉันตลอดมา สรุปเพื่อนก็ปลอดภัย น้าก็ปลอดภัยค่ะหลังจากนั้นก็ไม่กล้าไปเที่ยวที่ภูเกตอยู่3ปีกว่าจะทำใจได้มันเป็นฝันร้ายจริงๆค่ะ เรื่องเล่าจากประสบการจริงที่ไม่มีใครอยากเจอ... Einde chatgesprek

September 6, 2014 at 6:35pm · Like · 37

Sathita Netrawong ไปดูในวีดีโอ แอดมินก็โศรก เศร้ามาก ขนาดไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง เพราะเหตุเกิดหลังจากไปเที่ยวที่เขาหลักได้ประมาณหนึ่งเดือน คิดว่าที่ตัวไปเที่ยวตรงนั้นน่าจะเสียหายทั้งหมด เพราะเป็นบ้านพัก ที่หน้าผาด้านล่างส่วนสำนักงานใหญ่ต้องเดินขึ้นมาข้างบน ยังโศรกไม่หายเลย น้องโชคดีมากที่รอดชีวิต และขอให้โชคดีต่อๆๆไปคะ

September 6, 2014 at 6:46pm · Like · 10

Veerman Mel วันนั้นทั้งวันเรานั่งรอๆอยู่บนเขาไม่มีข้าวไม่มีน้ำค่ะเพราะร้านค้าโรงแรงของขายเกลี้ยงหมดในร้านค้าเหลืออยู่อย่างเดียวคือแฟ๊บค่ะ รอดตายมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งแกยอมแบ่งน้ำให้สองขวด และลอดตายจากพี่ๆอีกกลุ่มหนึ่งเขามีบ้านอยู่แถวๆตีนเขา เขาลงไปเอาเตาแก๊สโจ้กมาม่าเขาก็แบ่งให้กิน ฉันขอโจ๊กให้แฟน ตกตอนเย็นทางหลวงก็มีรถมาแจกข้าวกล่อง และมีคนใจดีเปิดบ้านให้ผู้คนนอนกัน แต่ไม่ได้นอนหรอกค่ะ เพราะกลัว เป็นทุกข์คิดว่าเราจะรอดไหมนะจะได้เจอหน้าพ่อแม่อีกไหมนะ

 
 
 

Comments


คลิกดูเรื่องน่าอ่าน
Tag Cloud

ขออภัยกำลังอยู่ใน

ขั้นตอนทำเวปเพจคะ

 ThaiMadam's story

© 2014 by The Book of  Lover "Thai madamstory" Proudly created with Wix.com

  • Facebook B&W
  • Twitter B&W
  • Google+ B&W
bottom of page